E-BOOK หลักเมือง สิงหาคม 65
Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
จากโรคไข้สุกใส (Chickenpox) ที่เป็นไข้ออกผื่นลักษณะเดียวกัน
หลังจากที่มีไข้มาประมาณ ๓ วัน จะเข้าสู่ช่วงระยะออกผื่น โดย
ลักษณะผื่นของโรคฝีดาษลิงจะกินเวลานานประมาณ ๒ – ๔ สัปดาห์
โดยผื่นมักจะขึ้นที่บริเวณใบหน้า แขน และขา มากกว่าที่ลำตัว โดย
ลักษณะของผื่นจะเริ่มจาก จุดแดง ๆ กลม ๆ หลังจากนั้นผื่นจะกลาย
เป็นตุ่มน้ำใสและกลายเป็นตุ่มหนอง และกลายเป็นสะเก็ดในเวลาต่อมา
ซึ่งในช่วงที่ผื่นเป็นตุ่มน ้ำใสและตุ่มหนอง จะเป็นช่วงระยะเวลาที่
สามารถแพร่เชื้อได้สูงสุด หากผื่นเริ่มตกสะเก็ดแล้วจะถือว่าพ้นจาก
ระยะการแพร่เชื้อ ผื่นของโรคฝีดาษลิงจะกินลึกถึงชั้นผิวหนังด้านใน
ทำให้หลังจากผื่นตกสะเก็ดจะทำเกิดรอยโรคหรือรอยแผลเป็นได้
หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕
การแพร่ระบาดเหมือน COVID-19 หรือไม่ สำหรับ
ใครที่กังวลและสงสัยว่า โรคไข้ฝีดาษลิง จะกลายเป็นโรค
ระบาดที่เกิดการระบาดทั่วโลก (Pandemic) เหมือนกับ
COVID-19 นั้น โอกาสในการกลายเป็นการระบาดใหญ่ทั่วโลกนั้น
มีได้น้อยกว่าเพราะลักษณะในการแพร่เชื้อจะผ่านการสัมผัส
อย่างใกล้ชิดกับผู้ป่วยเป็นหลัก มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่
สามารถติดเชื้อผ่านละอองฝอยขนาดใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม
ยังคงต้องติดตามข้อมูลข่าวสารกันอย่างใกล้ชิดต่อไป ในแง่
ของการควบคุมโรคนั้นหากเชื้อมีการแพร่ระบาดจากคนไปสู่
สัตว์ จะทำให้การควบคุมโรคทำได้ยากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม
สัตว์ฟันแทะที่จะกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อตามธรรมชาติของ
เชื้อไวรัสนี้อยู่แล้ว โดย ณ ข้อมูลปัจจุบัน ยังไม่พบรายงานว่า
มีเชื้อไวรัสในกลุ่มสัตว์ฟันแทะ (เช่น กระรอก หนู กระแต) ที่
อาศัยอยู่ในประเทศไทย
โรคไข้ฝีดาษลิง รักษาได้ไหม อาการแบบไหนต้องพบ
แพทย์ หากพบผู้ติดเชื้อหรือผู้ที่สงสัยติดเชื้อ จะต้องแยก
ผู้เสี่ยงติดเชื้อออกจากผู้อื่น เป็นเวลา ๒๑ - ๒๘ วัน จนกว่าผื่น
จะตกสะเก็ด ในกรณีที่เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกันกับผู้เสี่ยงติดเชื้อ
(อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน เป็นสามีภรรยากัน มีความสัมพันธ์
กัน) ให้สังเกตอาการของตนเองและแยกตัวเองออกจากผู้อื่น
เช่นเดียวกัน โดยพบว่า ผู้ที่เคยได้รับวัคซีนไข้ทรพิษมาหรือ
มีอายุมากกว่า ๔๒ ปีขึ้นไป จะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อน้อย
กว่าผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน ๕ เท่า หรือลดโอกาสการ
เป็นโรคได้ร้อยละ ๘๐ - ๙๐ ปัจจุบันจากสถานการณ์การแพร่ระบาด
ทั่วโลก ยังไม่พบผู้ป่วยโรคไข้ฝีดาษลิงที่มีอาการรุนแรง โดยทั่วไปแล้ว
ผู้ป่วยจะสามารถหายจากโรคได้เอง ในระยะเวลาประมาณ ๒ - ๔
สัปดาห์ ในกรณีที่เป็นกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือ
มีโรคประจำตัวจะมีการรักษาโดยใช้ยา Tecovirimat, Cidofovir,
Brincidofovir ซึ่งเป็นยากลุ่มเดียวกันกับที่ใช้รักษาโรคไข้ทรพิษ
วิธีป้องกัน “โรคฝีดาษลิง” ควรออกห่างจากผู้ติดเชื้อ ผู้ที่สงสัย
เสี่ยงติดเชื้อ หรือมีประวัติสัมผัสผู้ป่วย ไม่นำมือไปสัมผัสผื่น ตุ่ม หนอง
ของผู้ที่เสี่ยงติดเชื้อ เชื้อไวรัสฝีดาษลิงเป็นเชื้อที่มีโปรตีนหุ้ม ซึ่งสามารถ
ถูกทำลายได้ด้วยแอลกอฮอล์ ดังนั้น จึงควรหมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วย
แอลกอฮอล์ สวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อผ่านละออง
ฝอยขนาดใหญ่ การล้างมือด้วยแอลกอฮอล์และสวมหน้ากากอนามัย
สามารถช่วยป้องกันได้ทั้ง ๓ โรค ได้แก่ โรคฝีดาษลิง โรคโควิด-19 และ
โรคไข้หวัดใหญ่
“โรคฝีดาษลิง อาจจะดูไกลตัวมาก ๆ แต่ควรทำความรู้จัก
เพื่อสังเกตอาการและสามารถแนะนำคนอื่นให้ดูแลป้องกันตัวเอง
จากโรคติดเชื้อต่าง ๆ ที่ทยอยเปิดตัวออกมาเรื่อย ๆ … ขอให้ทุกคน
มีสุขภาพแข็งแรง ไม่ป่วย ปลอดภัยจากโรคติดเชื้อและอยู่ร่วมกัน
อย่างมีความสุข”
ที่มาข้อมูลเพิ่มเติม https://www.health-th.com
ที่มาของภาพ : S__42860689, shutterstock_2160268991-scaled,
1400694-img.vgpgf8.vyxj
49