01.07.2022 Views

E-Book หลักเมืองมิถุนายน 65

Create successful ePaper yourself

Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.

ยุทธการเสือดำสมรภูมิเขาค้อ

ตอนที ่ ๔

ทหารพรานไม่ทิ้งใครไว้แนวหลัง

กรกต เกตุแก้ว

อดีตทหารพรานจู่โจมกองร้อย ๙๑๑ ชค.๕๑๓ ค่ายปักธงชัย

ตะวันลับเหลี่ยมเขาค้อ เทือกเขาค้อยอดสูงคือเขาย่า

เขาค้อถูกความมืดดำของราตรีกาลเข้าปกคลุมไปโดยสิ้นเชิง

ความเหน็บหนาวทวีความเย็นยะเยือกยิ่งขึ้นนักรบจากค่าย

ปักธงชัยทุกนายหนาวสะท้านแต่ในใจของนักรบกล้ากลับร้อนรุ่ม

เพราะอยู่ในสนามรบที่มีความตายอยู่รอบตัว ชุดชิงศพทหารพราน

จู่โจมกองร้อย ๙๔๘ ทุกนายบอกกับตัวเองว่า “คืนนี้ยังไงก็ต้องนำศพ

และเพื่อนออกไปให้ได้”

ตะวันลับฟ้าลงไปแล้วความมืดเข้าปกคลุมพื้นที่ซึ่งเป็นม่าน

กำบังตาทำให้ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ที่ทำหน้าที่ตรวจการณ์ไม่ทัน

ได้สังเกตเห็น หัวหน้าชุดกองร้อย ๙๔๘ ที่ไปชิงศพพูดกับเพื่อนและ

บอกกับศพเพื่อนที่พลีชีพไปว่า “ไปเพื่อนรักได้เวลานำศพเพื่อนรัก

ออกไปจากแนวปะทะแล้ว พวกเราจะพาเพื่อนกลับบ้านเรานะ”

เปลผ้าร่มที่ทหารพรานทุกนายมีใช้แขวนนอนถูกนำมาห่อร่าง

ของเพื่อนนักรบที่เสียชีวิต ไม้ขนาดเท่าขาถูกนำมาทำเป็นคานหาม

หวังว่า ความมืดมิดจะเป็นเกราะกำบังไม่ให้ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์

ที่ตรวจการเห็นพวกเราในเวลาที่หามศพเพื่อนกลับฐาน

26

ฐานทหารพรานและฐานทหารหลักบนเขาค้อ ปี ๒๕๒๔

ขณะที่ชุดชิงศพของทหารพรานจู่โจม กองร้อย ๙๔๘ หามศพ

เพื่อนเดินกลับฐานอยู่นั้นเสียงปืน AK-47 ของผู้ก่อการร้าย

คอมมิวนิสต์เริ่มยิงแหย่เพื่อหลอกให้ทหารพรานยิงตอบโต้เพื่อให้เปิด

เผยพิกัดที่อยู่ ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์จะได้รู้ที่อยู่ของทหารพราน

แล้วยิงถล่มด้วยปืน ค. แต่นักรบค่ายปักธงชัยรู้ทันเล่ห์กลจึงไม่หลงกล

ศพและคนเจ็บถูกหามออกมาจากแนวปะทะเดินฝ่าความมืดออกไป

เพื่อนำกลับฐานหัวงานก่อนจะส่งกลับแนวหลัง คนเจ็บก็ถูกนำส่ง

โรงพยาบาลคนตายก็ส่งกลับภูมิลำเนาให้ญาติลูกเมียได้ทำบุญ

ตามประเพณี ชีวิตนักรบก็มีเพียงเท่านี้แหละ! ทหารพรานจู่โจม

ค่ายปักธงชัยทุกคนจึงบอกกับตัวเองว่า

“เราอาสามารบเพื่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” ตายก็ไม่

เสียดายชีวิต ถึงตัวจะตายขอให้ชาติยังอยู่ก็ภูมิใจแล้ว ที่ผ่านมาก็เป็น

เช่นนั้นจริง ๆ ที่นักรบค่ายปักธงชัยคนแล้วคนเล่าที่มีมากถึง ๓๒๕

ชีวิตแล้วที่พลีชีพเพื่อแผ่นดิน พวกเขาไม่ได้รบเพื่อเงินเพราะขณะนั้น

เงินเดือนของทหารพรานจู่โจมค่ายปักธงชัยในช่วงสงครามเย็นแค่

เดือนละ ๙๐๐ บาทเท่านั้น

ผู้เขียนก็เป็นคนหนึ่งที่ได้ร่วมรบกับเพื่อนนักรบในค่ายปักธงชัย

รบมาหลายสมรภูมิรบมานับสิบปีเห็นเพื่อนบาดเจ็บเพื่อนตายไป

ต่อหน้ามากมาย แต่พวกเราไม่เคยทิ้งใครไว้ข้างหลังจะเป็นจะตาย

ยังไงก็ต้องนำเพื่อนกลับออกมาให้ได้เพราะเราคือ “เพื่อนตาย”

ในปี ๒๕๔๓ เมื่อไม่มีภารกิจรบหน่วยรบอันเกรียงไกร ๕๑๓ ก็

ถูกยุบกำลังรบไป นักรบของเราเหมือนถูกลอยแพหาเลี้ยงชีพเอาเอง

ไม่มีบำเหน็จบำนาญ สิ่งที่ได้คือความภูมิใจที่ได้รบเพื่อชาติส่วน

ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ที่รบกับพวกเราได้รับการโอบอุ้มจากรัฐเป็น

อย่างดี รัฐบาลได้ให้เงินสนับสนุนกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์

ที่กลับใจเข้ามาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย

รัฐบาลให้เงินกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์กลับใจที่เรียกว่า

“ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย” คนละ ๒๒๕,๐๐๐ บาท (สองแสนสองหมื่น

ห้าพันบาท) ให้ที่ดินทำกิน เป็นเรื่องจริงที่นักรบชุดควบคุมและ

ประสานงานโครงการ ๕๑๓ ค่ายปักธงชัยได้รับ

คืนนั้นแม้จะถูกผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ยิงปืนหลอกเพื่อให้เรา

ยิงตอบโต้และเปิดเผยพิกัดแต่ทหารพรานจู่โจม กองร้อย ๙๔๘ ชุดไป

ชิงศพก็ไม่ได้หลงกลจึงทำให้ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ไม่รู้พิกัด ศพ

เพื่อนและคนเจ็บถูกหามเดินฝ่าความมืดลัดเลาะออกมา ในที่สุด

ชุดชิงศพก็ทำสำเร็จ สามารถนำออกมาถึงฐานหัวงานในเวลา ๒ ทุ่มพอดี

พันตรี พโยม เกตุแก้ว รองหัวหน้าชุดควบคุมและประสานงาน

โครงการ ๕๑๓ ค่ายปักธงชัย ส่วนแยกที่ ๑๓ เขาค้อได้ประสานไปที่

กรกต เกตุแก้ว

Hooray! Your file is uploaded and ready to be published.

Saved successfully!

Ooh no, something went wrong!