ASA CREW VOL.3
Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
เรือนหลังที่ 2 พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก รูปตัด<br />
มาตราส่วน (ต้นฉบับ) 1:50 โดย ศรายุทธ สายบุญจันทร์, 2555<br />
The second house at Bangkok Folk Museum. Cross-sectional view.<br />
Scale (original) 1:50, by Mr.Sarayut Saiboonjun, 2012.<br />
พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก<br />
273 ซอยเจริญกรุง 43 ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร<br />
เปิดให้เข้าชมทุกวันพุธถึงวันอาทิตย์ เวลา 10.00-17.00 น.<br />
สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรศัพท์ 0-2233-7027<br />
Bangkokian Museum<br />
273 Soi Charoen Krung 43, Charoen Krung Road, Bangrak District, Bangkok<br />
Open: Wednesday – Sunday from 10.00 am - 5.00 pm<br />
For more information, call 0-2233-7027<br />
ส่วนที่เกินจากความคาดหมายคือประวัติความเป็นมาของเรือนหลังเล็กที่ย้ายมาจากทุ่งมหาเมฆ<br />
ซึ่งเชื่อมโยงให้เห็นว่า พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะเป็นตัวแทนของชาวบางกอกในยุคนั้น<br />
เนื่องด้วยเป็นสถานที่ที่มีคนอย่างน้อย 3 ชั่วคน และ 3 เชื้อชาติ ได้มาใช้ชีวิตผูกพันกัน ณ อาคารเหล่านี้<br />
โดยมีสังคมเมืองบางกอกยุครัตนโกสินทร์เป็นฉากหลัง<br />
นางอิน ตันบุ้นเต็ก คุณยายของเจ้าของเรือนมีเชื้อสายจากชาวจีนที่มาตั้งรกรากทํามาหากินอยู่ที่<br />
เมืองสยามตั้งแต่ยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ส่วนนางสอาง สุรวดีผู้เป็นมารดา ได้แต่งงานครั้งแรกกับ นายแพทย์<br />
ฟรานซีส คริสเตียน ศัลยแพทย์ชาวอินเดียที่สําเร็จการศึกษาจากประเทศอังกฤษ โดยพบกันครั้งแรกที่<br />
ปีนัง แล้วติดตามสามีมาสร้างครอบครัวที่บางกอก เสียดายที่หมอฟรานซีสอายุสั้นจนไม่ได้เปิดกิจการ<br />
ตามที่ตั้งใจ ทิ้งไว้แต่เพียงอาคารที่จัดสร้างเพื่อเตรียมท ําคลินิก และเครื่องไม้เครื่องมือแพทย์ตามยุคสมัยนั้น<br />
ไว้เป็นอนุสรณ์ รวมถึง รศ.วราพร สุรวดี ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก ก็มีชีวิตผูกพันกับสถานที่<br />
แห่งนี้ด้วยเช่นกัน<br />
อาคารทั้งหมดที่ปรากฏในพิพิธภัณฑ์ชาวบางกอกแห่งนี้ประกอบด้วยเรือนไม้2 ชั้นหลังเดิม 1 หลัง<br />
จัดแสดงเครื่องเรือนและวิถีชีวิตของครอบครัวในยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นหลัก ส่วนเรือนไม้ 2<br />
ชั้นด้านหลัง เป็นคลินิกเดิมของหมอฟรานซีสที่รื้อย้ายมาจากทุ่งมหาเมฆ ปัจจุบันจัดแสดงประวัติและ<br />
รูปหล่อโลหะของคุณหมอ จากต้นแบบฝีมือปั้นของศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ตลอดจนหนังสือและ<br />
อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์สุดท้ายคืออาคารแถวครึ่งตึกครึ่งไม้อีก 1 หลังที่จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้และ<br />
ของสะสมส่วนตัวของครอบครัวสุรวดี<br />
ทุกอาคารได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดีตามรูปแบบเดิมเมื่อแรกสร้าง แม้จะไม่ได้ใช้เครื่องปรับ<br />
อากาศในบางอาคาร แต่อาศัยร่มไม้ที่ครึ้มอยู่โดยรอบ ก็ช่วยให้สามารถเดินชมได้ด้วยความเพลิดเพลิน<br />
แม้ในวันที่อากาศอบอ้าว ชวนให้คิดถึงความสบายในยุคสมัยนั้นได้เป็นอย่างดี<br />
เมื่อ พ.ศ.2555 สมาคมสถาปนิกสยามฯ มีโอกาสได้นําสถาปนิกและอาสาสมัครเข้าไปช่วยสํารวจ<br />
รังวัดอาคารในพิพิธภัณฑ์ ในโครงการ <strong>ASA</strong> VERNADOC 2012 โดยได้จัดแสดงนิทรรศการและตีพิมพ์<br />
เผยแพร่ผลงานในหนังสือ VERNADOC Vol.1 : Thailand ออกสู่สาธารณชน ทําให้พิพิธภัณฑ์เป็นที่รู้จัก<br />
และถูกจดจําผ่านภาพลายเส้นที่งดงาม<br />
พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก รูปด้านหน้าซุ้มประตูทางเข้า<br />
มาตราส่วน (ต้นฉบับ) 1:2.5 โดย พนิสรา บุญสม, 2555<br />
Bangkok Folk Museum, Front view of the entrance arch.<br />
Scale (original) 1:2.5, by Miss Panisara Boonsom, 2012.<br />
ผู้สนใจสามารถติดตาม VERNADOC ได้ที่ www.facebook.com/vernadoc<br />
- 12 -<br />
MAR-APR 2017 - ISSUE 03