902
Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
ปืนฝรั่งเศส<br />
ความสัมพันธ์ระหว่างกรุงศรีอยุธยากับฝรั่งเศส เริ่มขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระ<br />
นารายณ์มหาราชด้วยบทบาทของคณะมิชชันนารี เพื่อเผยแผ่คริสต์ศาสนาคาทอลิก ซึ่ง<br />
เชิญพระราชสาส์นของพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ ศุภอักษรของพระสันตปาปาเคลมองต์ที่ ๙<br />
และเครื่องราชบรรณาการเข้ามาถวายเพื่อขอบพระทัยที่ทรงอุปการะมิชชันนารีให้ได้รับ<br />
ความร่มเย็น หลังจากนั้นบริษัทอินเดียตะวันออกของฝรั่งเศสก็เข้ามาตั้งห้างค้าขายในกรุง<br />
ศรีอยุธยา และยังได้รับพระราชานุญาตให้ไปค้าขายดีบุกที่เมืองถลาง รวมทั้งทรงยกเมือง<br />
สงขลาให้บริษัทสร้างป้อมปราการได้ การติดต่อระหว่างกันมีเรื่องราวให้ศึกษามาก จากการ<br />
ส่งคณะราชทูตไปมาเพื่อเจริญทางพระราชไมตรี แต่ภายหลังได้มีข้อสงสัยในกลุ่มขุนนาง<br />
ไทยในเรื่องการโน้มน้าวให้สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงเปลี่ยนไปนับถือคริสต์ศาสนา<br />
และยังมีความหวาดระแวงเรื่องการเข้ามามีอิทธิพลทางการเมือง การทหาร ซึ่งเชื่อกันว่า<br />
มีเจ้าพระยาวิไชยเยนทร์อยู่เบื้องหลัง มุ่งหาผลประโยชน์ทางการค้าและการเมืองไปพร้อม<br />
กัน สุดท้ายฝรั่งเศสก็หมดบทบาทไปคงเหลือแต่เพียงหลักฐานบันทึกไว้มากมายทั้งของ<br />
มิชชันนารี คณะทูต พ่อค้า และทหาร<br />
การที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงสนพระราชหฤทัยวิทยาการตะวันตก<br />
เช่น โปรดให้วิศวกรสร้างป้อมปราการในเมืองต่างๆ และสร้างหอดูดาวเพื่อทรงศึกษา<br />
ดาราศาสตร์ ในส่วนของอาวุธยุทธภัณฑ์ ได้มีข้อตกลงในสัญญาทางการค้าที่อนุญาตให้<br />
นำาของต้องห้าม เช่น อาวุธปืน ดินปืน ฯลฯ แต่ต้องขายให้แก่ทางการ เชื่อกันว่าคงมี<br />
ปืนฝรั่งเศสเข้ามาด้วย อย่างไรก็ตาม กลับมีเหตุการณ์ที่ทำาให้สมเด็จพระนารายณ์มหาราช<br />
ทรงขัดเคืองพระราชหฤทัย เพราะคณะราชทูตได้สั่งห้ามไม่ให้แพร่งพรายเกี่ยวกับ ปืนใหญ่<br />
แบบใหม่และลูกแตกที่ทันสมัยที่นำาเข้ามาด้วยในเวลานั้น<br />
ความจริงเรื่องฝรั่งเศสมี ปืนใหญ่และกระสุนลูกแตกนี้ เจ้าพระยาวิไชยเยนทร์<br />
หรือ ฟอลคอน เป็นผู้รู้ก่อนและขอดู แต่ถูกราชทูตปฏิเสธ ถึงแม้เจ้าพระยาวิไชยเยนทร์<br />
จะอ้างว่าสมเด็จพระนารายณ์ทรงสนพระราชหฤทัยที่จะทอดพระเนตร เซเบเรต์ก็อ้าง<br />
เหตุผลบ่ายเบี่ยงต่างๆ นานาว่า การบรรทุกอาวุธใหม่มายังลพบุรีมีความยากลำาบากมาก<br />
เซเบเรต์ดูเหมือนจะเข้าใจท่าทีของฝ่ายไทยที่ต้องการจะได้อาวุธใหม่ไว้ เขาจึงกล่าวต่อ<br />
ไปว่า ปืนและลูกแตกยังต้องอยู่ในความดูแลของทหารฝรั่งเศสตามพระราชประสงค์ของ<br />
พระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ แต่ในที่สุดนายพลเดฟาช์จได้มอบ ปืนใหญ่ ๑ กระบอก และ กระสุน<br />
ลูกแตกจำานวน ๓ ลูกแก่ไทยเพื่อสาธิตการยิงที่ละโว้ อย่างไรก็ดี เมื่อออกพระวิสุทธสุนทร<br />
(โกษาปาน) เป็นราชทูตไปฝรั่งเศสได้มีโอกาสดูป้อมเมืองต่างๆ หลายเมือง รวมทั้งป้อม<br />
แซงต์ฟรังซัวส์ที ่เมืองแอร์ซึ่งเป็นป้อมสำาคัญที่แปลกกว่าป้อมอื่นๆ ชมการยิงปืนใหญ่<br />
โรงหล่อปืนใหญ่ โรงเรียนการทหาร ฯลฯ ได้ทำารายงานกลับมาทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จ<br />
พระนารายณ์มหาราชให้ทรงทราบอย่างละเอียด<br />
70
Change language