25.01.2021 Views

E - Book หลักเมือง มกราคม 64

Create successful ePaper yourself

Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.

แต่มิได้เห็นพระมหาอุปราชา ครั้นเหลือบไปฝ่ายทิศขวาพระหัตถ์ ก็

เห็นช้างเศวตฉัตรช้างหนึ่ง ยืนอยู่ ณ ฉายาไม้ข่อย มีเครื่องสูงและทหาร

หน้าช้างมาก ก็เข้าพระทัยถนัดว่า ช้างพระมหาอุปราชา พระเจ้าอยู่หัว

ทั้งสองพระองค์ ก็ขับพระคชาธารตรงเข้าไป ทหารหน้าช้างข้าศึก ก็

วางปืนจ่ารงค์ มณฑก นกสับ ตระแบงแก้ว ระดมยิงมิได้ต้องพระองค์

และพระคชาธาร สมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้าจึ่งตรัสร้องเรียกด้วยเสียง

อันดังว่า

...พระเจ้าพี่ เราจะยืนอยู่ไยในร่มไม้เล่า เชิญออกมาทำยุทธหัตถ์

ด้วยกันให้เป็นเกียรติยศไว้ในแผ่นดินเถิด ภายหน้าไปไม่มีกษัตริย์ที่จะ

ได้ยุทธหัตถ์แล้ว...

...พระมหาอุปราชาได้ฟังดังนั้น ละอายพระทัย มีขัตติยราช

มานะ ก็บ่ายพระคชาธารออกมารับ เจ้าพระยาไชยานุภาพเห็นช้าง

ข้าศึก ก็ไปด้วยฝีลั่นน้ำมันมิทันยั้ง เสียที พลายพัทธกอก็ได้ล่างแบก

หลักเมือง มกราคม ๒๕๖๔

รุนมา พระมหาอุปราชาจ้วงฟันด้วยพระแสงของ้าว สมเด็จพระนเรศวร

เบี่ยงพระมาลารับ พระแสงของ้าวมิได้ต้องพระองค์ เจ้าพระยาไชยา

นุภาพสบัดลงได้ล่างแบกถนัด พลายพัทธกอเพลียกเบนไป สมเด็จ

พระนเรศวรเป็นเจ้าได้ที จ้วงฟันด้วยพระแสงพลพ่ายต้องพระอังสา

เบื้องขวาพระมหาอุปราชา ตลอดลงมาจนประฉิมมุราประเทศ ซบลง

กับคอช้าง และนายมหานุภาพควาญพระคชาธารพระนเรศวรเป็นเจ้า

นั้น ต้องปืนข้าศึกตาย...

...ขณะเมื่อสมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้าชนช้างด้วยพระมหา

อุปราชานั้น เจ้าพระยาปราบไตรจักรซึ่งเป็นคชาธารสมเด็จพระ

เอกาทศรถ ก็เข้าชนด้วยพลายพัทซะเนียง ช้างมางจาซโร เจ้า พระยาปราบ

ไตรจักรได้ล่าง พลายพัทซะเนียงเสียทีเบนไป สมเด็จ พระเอกาทศรถ

จ้วงฟันด้วยพระแสงของ้าว ต้องคอมางจาชโรขาด ตายกับคอช้าง

หมื่นภักดีศวร กลางช้างสมเด็จพระเอกาทศรถนั้น ต้องปืนข้าศึกตาย...

...ขณะเมื่อสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวทั้งสองพระองค์ ท ำสงคราม

ได้ชัยชำนะพระมหาอุปราชาและมางจาชโรแล้ว บรรดาท้าว พระยา

มุขมนตรี นายทัพ นายกอง ซ้ายขวา หน้าหลังทั้งปวง จึ่ง มาทันเสด็จ

ได้เข้ารบพุ่งแทงฟันข้าศึกเป็นสามารถ และพลพม่า มอญทั้งนั้นก็แตก

กระจายไปเพราะพระเดชเดชานุภาพ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัสให้นาย

ทัพนายกองทั้งปวงยกไปตามจับข้าศึก แล้ว เสด็จคืนมายังพลับพลา

พระราชทานชื่อเจ้าพระยาไชยานุภาพ เป็นเจ้าพระยาปราบหงสา

บรรดามุขมนตรีนายทัพนายกองซึ่งยก ตามข้าศึกไปนั้น ได้ฆ่าฟันพม่า

มอญโดยทางไปถึงกาญจนบุรี ศพเกลื่อนไปแต่ตะพังตรุนั้นประมาณ

๒๐,๐๐๐ เศษ จับได้เจ้าเมืองมะลวนและนายทัพนายกองกับไพร่

เป็นอันมาก ได้ช้างใหญ่ สูง ๖ ศอก ๓๐๐ ช้าง พลายพังระวางเพรียว

๕๐๐ ม้า ๒,๐๐๐ เศษ มาถวาย...”

เมื่อเป็นเช่นนี้ กองทัพไทย จึงถือเอาวันที่สมเด็จพระนเรศวร

มหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีมีชัยชนะต่อพระมหาอุปราชา เป็น

“วันกองทัพไทย” ซึ่งเป็นวันรัฐพิธี โดยพิจารณาจากวันที่ทรงกระทำ

ยุทธหัตถี คือวันจันทร์ เดือน ๒ แรม ๒ ค่ำ จุลศักราช ๙๕๔ ซึ่งตรงกับ

วันที่ ๑๘ มกราคมของทุกปี

ผู้เขียนจึงขอเรียนให้ทุกท่านทราบว่า พระบรมเดชานุภาพ

พระมหากรุณาธิคุณ และพระราชกรณียกิจของพระบูรพกษัตราธิราชเจ้า

องค์มหาราชทั้ง ๒ พระองค์ ได้สร้างความเป็นชาติ สร้างเอกราช

อธิปไตย และความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ราชอาณาจักรไทย

ได้มีความสงบสุข มีความเป็นปึกแผ่น และมีแผ่นดิน

หยัดยืนมาตราบจนปัจจุบัน จึงเป็นเรื่องที่ประชาชน

ชาวไทยพึงตระหนักรู้และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

และร่วมจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ชาติไทยต่อไป

อย่างยาวนาน

ในวันที่ ๑๗ มกราคม วันพ่อขุนรามคำแหง

มหาราช และวันที่ ๑๘ มกราคม วันกองทัพไทย

ผู้เขียนจึงขอเรียนเชิญทุกท่านพสกนิกรไทย

ทุกท่านร่วมน้อมเกล้าฯ รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ

พ่อขุนรามคำแหงมหาราช และสมเด็จพระนเรศวร

มหาราช ทวิมหาราชผู้ทรงสร้างความมั่นคงเป็น

ปึกแผ่น เอกราช และเกียรติภูมิให้แก่ประเทศชาติ

ด้วยกันทุกท่านเทอญ

9

Hooray! Your file is uploaded and ready to be published.

Saved successfully!

Ooh no, something went wrong!