Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
อย่างเป็นทางการแล้ว จึงเป็นการฉีกข้อตกลงมินสก์อย่างชัดเจน ซึ่ง
ส่งผลให้สถานการณ์ในภูมิภาคนี้เลวร้ายลงไปอีกเป็นทวีคูณ และ
ล่าสุด วุฒิสภารัสเซียมีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้ประธานาธิบดี
วลาดิเมียร์ ปูติน มีอำนาจใช้กองทัพรัสเซียนอกประเทศได้ เพื่อให้การ
สนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดน (โดเนตสก์ และลูฮันสก์) ซึ่งตั้งอยู่ใน
ภูมิภาคดอนบาสทางตะวันออกของยูเครนได้ โดยอ้างว่า เป็นการ
ส่งกำลังทหารไปเพื่อรักษาสันติภาพในพื้นที่ดังกล่าว หาใช่เป็นการ
ส่งกำลังทหารไปรุกรานประเทศยูเครนตามข้อกล่าวหาของสหรัฐฯ
และ NATO ด้วยเหตุผลว่า ผู้นำยูเครนใช้ความรุนแรงและการนองเลือด
ต่อกลุ่มคนที่ต้องการเป็นรัฐอิสระจากยูเครน ซึ่งคนเหล่านั้น
ต่างภักดีต่อรัสเซีย อีกทั้ง NATO ก็ได้ให้การสนับสนุนอาวุธ
ยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยแก่ยูเครนเพื่อใช้ในการเผชิญหน้ากับรัสเซีย
อีกด้วย โดยจุดเปราะบางที่ปูตินตัดสินใจส่งกำลังทหารไปรักษา
สันติภาพในดินแดนโดเนตสก์และลูฮันสก์ ก็เพราะเห็นว่าทางการ
ยูเครนสั่งให้ปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้าย โดยเข้าปราบผู้ประท้วง
หลักเมือง พฤษภาคม ๒๕๖๕
จนในที่สุดเกิดเป็นจลาจลด้วยอาวุธ และเข้าสู่สงครามอย่าง
เต็มรูปแบบ
จากประเด็นอ่อนไหวเปราะบางในกรณีกลุ่มแบ่งแยกดินแดน
ยูเครน ทั้งโดเนตสก์และลูฮันสก์ ที่คุกรุ่นมาโดยตลอด ยิ่งทวีความ
หมิ่นเหม่ในการก่อสงครามหรือความขัดแย้งรุนแรงมากขึ้นเป็น
ลำดับ ดั่งเป็นการเติมน้ำมันเข้ากองไฟก็คือ การแสดงท่าทีของ
องค์การป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) ในการรับยูเครนเข้าเป็น
สมาชิก ซึ่งนั่นจึงซ้ำเติมจุดเปราะบางให้แทบจะขาดสะบั้นลง จาก
ความไม่ไว้วางใจยูเครนของรัสเซีย อันเปรียบเสมือนเป็นหอกข้างแคร่
ของรัสเซียที่เห็นว่าปัญหาโดเนตสก์และลูฮันสก์ ก็ยังไม่ได้รับ
การตอบสนองจากยูเครน การแสดงท่าทีสนับสนุนให้ยูเครนเข้าเป็น
สมาชิก NATO ที่รัสเซียแสดงจุดยืนชัดเจนมาโดยตลอดว่าต้องการ
ให้ NATO หยุดแผ่ขยายอิทธิพลโดยรับประเทศต่าง ๆ ในยุโรปตะวันออก
ที่เคยเป็นอาณานิคมของรัสเซียเข้าเป็นสมาชิกมากขึ้นไปอีก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่รัสเซียไม่ต้องการให้ยูเครนเข้าร่วมเป็น
สมาชิก NATO จนเมื่อต้นปี ค.ศ. ๒๐๒๑ ที่ผ่านมา เมื่อสหรัฐฯ และ
NATO เพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องของรัสเซียดังกล่าว รัสเซียจึงแสดง
กำลังทหารของกองทัพอันเกรียงไกร ด้วยการระดมกำลังทหาร
จำนวนมากเข้าประชิดชายแดนยูเครน รวมถึงบริเวณภูมิภาค
ดอนบัสเพื่อกดดันสหรัฐฯ และ NATO ให้ยุติความตั้งใจดังกล่าว
อย่างสิ้นเชิง
วิกฤตการณ์รัสเซีย-ยูเครน ได้เดินทางมาถึงจุดตึงเครียดถึง
ขีดสุดอย่างหลีกหนีไม่พ้น เมื่อต่างฝ่ายต่างยืนหยัดในจุดยืนของตน
และในที่สุดประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ตัดสินใจออกคำสั่งให้
กองทัพส่งกำลังทหารเข้าไปรักษาสันติภาพในเมืองโดเนตสก์และ
ลูฮันสก์ อันเป็นดินแดนทางภาคตะวันออกของยูเครนที่ยูเครนกล่าวว่า
เป็นกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดน ในขณะที่
กลุ่มคนในดินแดนดังกล่าวและรัสเซียกล่าวว่า
เป็นกลุ่มคนที่ต่อสู้เพื่ออิสระในการปกครอง
ตนเองซึ ่งมีความชอบธรรมในการต่อสู้ หลัง
จากประธานาธิบดี ปูติน ได้ลงนามรับรองให้
ทั้งสองเมืองนี้เป็นรัฐอิสระจากการปกครอง
ของยูเครน และรัสเซียมีความจำเป็นที่จะต้อง
ส่งกองกำลังของตนเพื่อเข้าไปรักษาสันติภาพ
นำความสงบสุขมาสู่ชนกลุ่มน้อยในพื้นที่
ดังกล่าวอย่างถูกต้องตามกฎหมายหาใช่
เป็นการรุกรานยูเครน ทั้งยังบานปลายไปสู่
การคว่ำบาตรของประเทศมหาอำนาจตะวันตก
ที่ได้รับการตอบโต้จากรัสเซียแบบไม่ลดละ
เหล่านี้คือ ที่มาของความขัดแย้งอันกำลัง
ส่งผลกระทบลุกลามไปในมิติต่าง ๆ ที่ขยาย
วงกว้างออกไปต่อชีวิตของคนทั้งโลก เพราะ
จุดยืนที่แตกต่างอย่างชัดเจน
35