Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
ระเบียบการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย
(Code of Conduct for Law Enforcement Officials 1979) ซึ่ง
ถือได้ว่าเป็นหลักสากลที่องค์การสหประชาชาติได้จัดทำขึ้น สรุปได้ว่า
ในประเทศที่ทหารสามารถใช้อำนาจหน้าที่อย่างตำรวจหรือโดย
กองกำลังรักษาความมั ่นคงของรัฐ ความหมายของเจ้าหน้าที่ที ่มี
อำนาจหน้าที่บังคับใช้กฎหมายรวมถึงเจ้าหน้าที่ดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ กำลังพลทหารจำเป็นต้องได้รับการฝึกอบรมในเรื่อง
การใช้กำลังและอาวุธปืนในการบังคับใช้กฎหมายซึ่งแตกต่างจากการรบ
หรือการสงครามที่ได้รับการฝึกอบรมที่ผ่านมา ตลอดจนการจัดทำ
กฎการใช้กำลัง (Rules of Engagement) ที่เหมาะสมและทันสมัย
ในการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่และการฝึกอบรมเป็นประจำให้มีความ
ชำนาญ เพื่อให้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ซึ่งจะได้รับการ
คุ้มครองปกป้องไม่ต้องรับผิดทั้งทางอาญา แพ่ง และวินัย
๒. หลักกฎหมายภายในประเทศที่สำคัญซึ่งกำลังพล กอ.รมน.
ภาค ๔ ส่วนหน้า จะต้องยึดถือเป็นหลักปฏิบัติ โดยเฉพาะการใช้
อาวุธปืน และการชันสูตรพลิกศพกับการไต่สวนสาเหตุการตาย
ซึ่งแตกต่างจากการรบหรือการสงคราม ดังนี้
๒.๑ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๘ ซึ่งสรุปได้ว่า
การใช้กำลังหรืออาวุธของทหารที่ทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมายต้อง
พอสมควรแก่เหตุ หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่าไม่เกินกว่าเหตุ ถือว่า
เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายและอยู่ภายใต้หลักการ
ป้องกันตนเอง กล่าวคือ เป็นการป้องกันชีวิตของตนเองหรือผู้อื่นให้
พ้นภยันตรายที่ใกล้จะถึงจากการประทุษร้ายโดยผู้ต้องสงสัย
ผู้ต้องหา หรือผู้ที่จะถูกตรวจค้นหรือจับกุม ดังนั้น ในการทำหน้าที่
บังคับใช้กฎหมายต้องมีการแสดงตน การเตือนด้วยวาจา การยิงเตือน
ในทิศทางที่ปลอดภัย เว้นแต่หากสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยหรือเป็น
อันตรายต่อชีวิตหรือบาดเจ็บสาหัสของผู้ใด
๒.๒ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา
๑๕๐ ซึ่งสรุปได้ว่า ในกรณีที่มีการตายเกิดขึ้นโดยการกระทำของ
เจ้าพนักงานระหว่างปฏิบัติหน้าที่หรือตายในระหว่างอยู่ในความควบคุม
ของเจ้าพนักงานระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ให้มีการชันสูตรพลิกศพ แล้ว
มีการร้องขอต่อศาลชั้นต้นแห่งท้องที่ที่ศพนั้นอยู่ เพื่อให้ศาลทำการ
ไต่สวนและทำคำสั่งแสดงว่าผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน เมื่อใด และถึง
เหตุกับพฤติการณ์ที่ตาย ถ้าตายโดยคนทำร้ายให้กล่าวว่าใครเป็น
ผู้กระทำเท่าที่จะทราบได้ แล้วส่งสำนวนไปให้พนักงานอัยการหรือ
อัยการทหารเพื่อมีคำสั่งฟ้องทางอาญาหรือไม่ฟ้องเจ้าพนักงาน
ดังกล่าว พนักงานอัยการหรืออัยการทหารจะพิจารณาว่าการกระทำ
ของเจ้าพนักงานดังกล่าวเกินกว่าเหตุหรือไม่ หากเห็นว่าไม่ได้กระท ำ
การเกินกว่าเหตุก็จะสั่งไม่ฟ้อง แต่ถ้าเห็นว่ากระทำเกินกว่าเหตุก็จะ
สั่งฟ้องเป็นคดีอาญาต่อไป
๓. หลักกฎหมายระหว่างประเทศและหลักสากลที่สำคัญ
๓.๑ อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก สรุปสาระสำคัญได้ว่า ห้าม
เลือกปฏิบัติต่อเด็ก คุ้มครองเด็กทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิมจากการ
ก่อเหตุรุนแรง แก้ไขเยียวยาเด็กที่ได้รับผลกระทบทั้งร่างกายและ
จิตใจ ส่งเสริมโครงการป้องกันมิให้เยาวชนถูกชักจูงและเป็นเครื่องมือ
ของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงและยาเสพติด ส่งเสริมให้เด็กเข้าใจหลัก
คำสอนของศาสนาอิสลามที่ถูกต้อง ในกรณีต้องควบคุมเด็กหรือ
เยาวชนที่ต้องสงสัยกระทำผิด ต้องให้การดูแลและเมตตาเป็นพิเศษ
38
พลเอก กฤษณะ บวรรัตนารักษ์