รายงานประจำปี 2554 - CS LoxInfo
รายงานประจำปี 2554 - CS LoxInfo
รายงานประจำปี 2554 - CS LoxInfo
You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน)<br />
117<br />
<strong>รายงานประจำปี</strong> <strong>2554</strong><br />
การซื้อกิจการในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม <strong>2554</strong><br />
การรวมธุรกิจบันทึกบัญชีโดยใช้วิธีซื้อ ณ วันที่ซื้อซึ่งเป็นวันที่โอนอำนาจควบคุมให้กลุ่มบริษัท<br />
สำหรับการซื้อกิจการในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม <strong>2554</strong> กลุ่มบริษัทวัดมูลค่าค่าความนิยม ณ วันซื้อ โดย<br />
• มูลค่ายุติธรรมของสิ่งตอบแทนที่โอนให้ บวก<br />
• มูลค่าของส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมในบริษัทของผู้ถูกซื้อ บวก<br />
• มูลค่ายุติธรรมของส่วนได้เสียที่มีอยู่ ณ วันซื้อ หากการรวมธุรกิจแบบเป็นขั้นๆ หัก<br />
• มูลค่าสุทธิ (โดยทั่วไปคือมูลค่ายุติธรรม) ของสินทรัพย์ที่ได้มาที่ระบุได้และหนี้สินที่รับมา<br />
เมื่อผลรวมสุทธิข้างต้นเป็นยอดติดลบ กำไรจากการต่อรองราคาซื้อจะถูกรับรู้ทันทีในกำไรหรือขาดทุน<br />
สิ่งตอบแทนที่โอนให้ไม่รวมค่าใช้จ่ายที่จ่ายเพื่อให้ความสัมพันธ์ที่มีอยู่ก่อนการรวมธุรกิจหมดไป จำนวนเงินดังกล่าวจะถูกรับรู้ในกำไรหรือ<br />
ขาดทุน<br />
ต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อ นอกเหนือจากต้นทุนในการจดทะเบียนและออกตราสารหนี้หรือตราสารทุน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการ<br />
รวมธุรกิจ กลุ่มบริษัทบันทึกต้นทุนดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดขึ้น<br />
หนี้สินสิ่งตอบแทนที่คาดว่าจะต้องจ่ายรับรู้ด้วยมูลค่ายุติธรรม ณ วันที่ซื้อ หากสิ่งตอบแทนที่คาดว่าจะต้องจ่ายจัดประเภทเป็นส่วนของผู้<br />
ถือหุ้น หนี้สินดังกล่าวจะไม่ถูกวัดมูลค่าใหม่และจะบันทึกการจ่ายชำระในส่วนของผู้ถือหุ้น นอกเหนือจากกรณีดังกล่าวการเปลี่ยนแปลง<br />
ในมูลค่ายุติธรรมในภายหลังของสิ่งตอบแทนที่คาดว่าจะต้องจ่ายรับรู้ในกำไรหรือขาดทุน<br />
การซื้อกิจการระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2551 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2553<br />
การซื้อกิจการระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2551 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ค่าความนิยม ได้แก่ ส่วนที่เกินระหว่างต้นทุนการซื้อและส่วนได้<br />
เสียของกลุ่มบริษัทที่รับรู้จากการได้มาซึ่งสินทรัพย์หนี้สินและหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นของ ผู้ถูกซื้อ (ทั่วไปเป็นมูลค่ายุติธรรม) สำหรับกำไรจาก<br />
การต่อรองราคาซื้อ (ตามมาตรฐานฉบับเดิม เรียกว่า ค่าความนิยมติดลบ) จะถูกรับรู้ทันทีในกำไรหรือขาดทุน<br />
ต้นทุนในการทำรายการ นอกเหนือจากต้นทุนในการจดทะเบียนและออกตราสารหนี้หรือตราสารทุน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการรวม<br />
ธุรกิจ กลุ่มบริษัทถือเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนการซื้อกิจการ<br />
การซื้อกิจการก่อนวันที่ 1 มกราคม 2551<br />
การซื้อกิจการก่อนวันที่ 1 มกราคม 2551 ค่าความนิยมวัดมูลค่าโดยวิธีเช่นเดียวกับที่กล่าวในย่อหน้าก่อน อย่างไรก็ดี ค่าความนิยมและค่า<br />
ความนิยมติดลบ ถูกตัดจำหน่ายตามระยะเวลาที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์เชิงเศรษฐกิจเป็นเวลา 8-12 ปี ณ วันที่ 1 มกราคม 2551 กลุ่ม<br />
บริษัทได้ถือปฎิบัติตามมาตรฐานการบัญชีฉบับที่43 เดิม (ปรับปรุง 2550) กลุ่มบริษัทได้หยุดตัดจำหน่ายค่าความนิยม ค่าความนิยมติดลบ<br />
ที่ยกมาในงบการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 ถูกตัดรายการโดยการปรับปรุงกับกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร ณ วันที่ 1 มกราคม 2551<br />
(ง) การบัญชีเกี่ยวกับการได้มาซึ่งส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม (เดิมคือผู้ถือหุ้นส่วนน้อย)<br />
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม <strong>2554</strong> กลุ่มบริษัทได้ปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 27 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง งบการเงินรวมและงบการเงิน<br />
เฉพาะกิจการ สำหรับการซื้อส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมในบริษัทย่อย นโยบายการบัญชีใหม่ได้มีการถือปฏิบัติโดยวิธีเปลี่ยนทันที<br />
เป็นต้นไปตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม <strong>2554</strong> ตามแนวปฏิบัติในช่วงเปลี่ยนแปลงของมาตรฐานฉบับปรับปรุงดังกล่าว โดยในระหว่างปี <strong>2554</strong><br />
กลุ่มบริษัทไม่มีการซื้อส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม ดังนั้นการถือปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีฉบับปรับปรุงใหม่ดังกล่าวไม่มีผลกระ<br />
ทบต่อกำไรหรือกำไรต่อหุ้นสำหรับปี <strong>2554</strong><br />
ตามนโยบายการบัญชีใหม่ การได้มาซึ่งส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมบันทึกบัญชีโดยถือว่าเป็นรายการกับส่วนของผู้ถือหุ้นในฐานะ<br />
ของผู้ถือหุ้น ดังนั้นจึงไม่มีค่าความนิยมเกิดขึ้นจากรายการดังกล่าว รายการปรับปรุงส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมขึ้นอยู่กับสัดส่วน<br />
ของส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมในสินทรัพย์สุทธิของบริษัทย่อย<br />
ก่อนวันที่ 1 มกราคม <strong>2554</strong> กลุ่มบริษัทรับรู้ค่าความนิยมที่เกิดจากการได้มาซึ่งส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมในบริษัทย่อย ซึ่งแสดง<br />
เป็นส่วนเกินของต้นทุนเงินลงทุนส่วนที่ลงทุนเพิ่มที่มากกว่ามูลค่าตามบัญชีของส่วนได้เสียในสินทรัพย์สุทธิที่ได้มา ณ วันที่เกิดรายการ