รายงานประจำปี 2554 - CS LoxInfo
รายงานประจำปี 2554 - CS LoxInfo
รายงานประจำปี 2554 - CS LoxInfo
You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน)<br />
59<br />
<strong>รายงานประจำปี</strong> <strong>2554</strong><br />
ความเป็นอิสระ และนิยามของกรรมการอิสระ<br />
บริษัทได้นิยาม “กรรมการอิสระ” ไว้ในนโยบายการกำกับดูแลกิจการของบริษัทว่า หมายถึง กรรมการที่มีคุณสมบัติเกี่ยวกับความเป็น<br />
อิสระตามแนวทางของคณะกรรมการกำกับตลาดทุน สำนักงานกลต. และ/หรือ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และต้องสามารถดูแล<br />
ผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างเท่าเทียมกันได้ ไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และสามารถให้ความเห็นอย่างเป็นอิสระ<br />
ในการประชุมของคณะกรรมการบริษัท และ/หรืออนุกรรมการได้ กล่าวโดยละเอียด คือ<br />
1. ถือหุ้นไม่เกินร้อยละ 0.5 ของหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัท บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วม หรือนิติบุคคลที่อาจมีความ<br />
ขัดแย้ง ทั้งนี้ ให้นับรวมหุ้นที่ถือโดยผู้ที่เกี่ยวข้องของกรมการอิสระรายนั้นๆ ด้วย<br />
2. ไม่เป็นหรือเคยเป็นกรรมการที่มีส่วนร่วมในการบริหารงานของบริษัท บริษัทใหญ่บริษัทย่อย บริษัทร่วม บริษัทย่อยในลำดับเดียวกัน<br />
หรือนิติบุคคลที่อาจมีความขัดแย้ง ทั้งนี้ ให้หมายรวมถึงการเป็นลูกจ้าง พนักงาน หรือที่ปรึกษาที่ได้รับเงินเดือนประจำจากบริษัท<br />
ตามที่ระบุข้างต้น เว้นแต่จะได้พ้นจากการมีลักษณะดังกล่าวเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปี ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการอิสระ<br />
3. เป็นกรรมการที่มิได้เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้บริหารระดับสูง ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท รวมถึงฝ่ายจัดการ หรือผู้มีอำนาจควบคุมใน<br />
ปัจจุบัน หรือที่ได้รับการคาดหมายว่าจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นฝ่ายจัดการ หรือผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท หรือบริษัทย่อย<br />
4. เป็นกรรมการที่ไม่มีผลประโยชน์หรือส่วนได้ส่วนเสียไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ทั้งในด้านการเงินและการบริหารงานของบริษัท<br />
บริษัทที่เกี่ยวข้อง บริษัทย่อย บริษัทร่วม บริษัทย่อยในลำดับเดียวกัน หรือนิติบุคคลที่มีความขัดแย้ง อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าว<br />
อาจได้รับการยกเว้น หากกรรมการดังกล่าวไม่มีผลประโยชน์ หรือส่วนได้ส่วนเสียในลักษณะข้างต้นมาเป็นเวลามากกว่า 2 ปีก่อน<br />
ได้รับการแต่งตั้ง โดยผลประโยชน์ หรือส่วนได้ส่วนเสียดังกล่าว ให้หมายถึงความสัมพันธ์ทางธุรกิจดังต่อไปนี้<br />
4.1 การทำรายการทางการค้าที่กระทำเป็นปกติเพื่อประกอบกิจการ การเช่าหรือการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ รายการเกี่ยวกับ<br />
สินทรัพย์หรือบริการ หรือการให้หรือรับความช่วยเหลือทางการเงิน ด้วยการรับหรือให้กู้ยืม ค้ำประกัน การให้สินทรัพย์เป็น<br />
หลักประกันหนี้สิน หรือพฤติการณ์อื่นในทำนองเดียวกัน ซึ่งเป็นผลให้ผู้ขออนุญาตหรือคู่สัญญามีภาระหนี้ที่ต้องชำระอีก<br />
ฝ่ายหนึ่ง ตั้งแต่ร้อยละสามของสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิของผู้ขออนุญาต หรือตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไป แล้วแต่จำนวนใดจะ<br />
ต่ำกว่า ทั้งนี้การคำนวณภาระหนี้ดังกล่าวให้เป็นไปตามวิธีการคำนวณมูลค่าของรายการที่เกี่ยวโยงกันตาม<br />
4.2 ไม่เป็น หรือเคยเป็นผู้สอบบัญชีของบริษัท หรือบริษัทที่เกี่ยวข้อง และไม่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่กรรมการที่ไม่ใช่กรรมการอิสระ<br />
ผู้บริหาร หรือหุ้นส่วนผู้จัดการของสำนักงานสอบบัญชีนั้น<br />
4.3 ไม่เป็นหรือเคยเป็นผู้ให้บริการทางวิชาชีพใดๆ ซึ่งรวมถึงการให้บริการเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายหรือที่ปรึกษาทางการเงินซึ่งได้<br />
รับค่าบริการเกินกว่า 2 ล้านบาทต่อปีจากบริษัทหรือบริษัทที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ในกรณีที่ผู้ให้บริการทางวิชาชีพเป็นนิติบุคคลให้รวม<br />
ถึงการเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่กรรมการที่ไม่ใช่กรรมการอิสระ ผู้บริหาร หรือหุ้นส่วนผู้จัดการของผู้ให้บริการทางวิชาชีพนั้นด้วย<br />
กรณีมีเหตุจำเป็นและสมควร ซึ่งมิได้เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง กรรมการอิสระอาจมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัทเกิน<br />
ระดับนัยสำคัญที่กำหนดในระหว่างดำรงตำแหน่งก็ได้ แต่ต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทก่อน และมติที่ได้ต้องเป็นมติ<br />
เอกฉันท์ นอกจากนี้บริษัทต้องเปิดเผยความสัมพันธ์ดังกล่าวของกรรมการรายนั้นตามที่กฎหมายกำหนดด้วย<br />
5. เป็นกรรมการที่ไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนเพื่อรักษาผลประโยชน์โดยเฉพาะของกรรมการบริษัทหรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่หรือผู้ถือ<br />
หุ้นซึ่งเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท<br />
6. สามารถปฏิบัติหน้าที่ แสดงความเห็น หรือรายงานผลการปฏิบัติตามหน้าที่ๆได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัท โดยไม่อยู่<br />
ภายใต้การควบคุมของผู้บริหาร หรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือญาติสนิทของบุคคลดังกล่าว และในกรณี<br />
จำเป็น คณะกรรมการบริษัทสามารถมอบหมายให้กรรมการอิสระตัดสินใจในรูปแบบองค์คณะ เกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัท<br />
บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วม บริษัทย่อยลำดับเดียวกัน หรือนิติบุคคลที่อาจมีความขัดแย้งได้<br />
3. ประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร<br />
บริษัทมีนโยบายให้ประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์และคุณสมบัติที่<br />
เหมาะสม และต้องไม่เป็นบุคคลเดียวกัน เพื่อให้เกิดการถ่วงดุลอำนาจระหว่างหน้าที่การกำกับ ดูแล และการบริหารกิจการ โดยได้กำหนด<br />
หน้าที่ความรับผิดชอบของประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหารไว้ ดังนี้<br />
ประธานกรรมการบริษัท เป็นกรรมการที่ไม่ใช่ผู้บริหาร รับผิดชอบในฐานะผู้นำของคณะกรรมการในการกำกับ ติดตามดูแลการ<br />
บริหารงานของคณะกรรมการบริหาร และคณะอนุกรรมการอื่นๆ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนงานที่กำหนดไว้และมีหน้าที่เป็นประธาน<br />
การประชุมคณะกรรมการ และการประชุมผู้ถือหุ้น ในปัจจุบันประธานกรรมการบริษัทเป็นกรรมการอิสระ<br />
ประธานกรรมการบริหาร รับผิดชอบในฐานะผู้นำของคณะผู้บริหารของบริษัท และรับผิดชอบต่อคณะกรรมการบริษัทในการควบคุม<br />
ฝ่ายจัดการให้สามารถดำเนินการได้อย่างบรรลุผลตามแผนที่วางไว้