WE Smile Magazine May 2016

ชั่วโมงต้องมนตร์
ทุกครั้งที่สัมผัสกับบรรยากาศภายในสตูดิโอ Likaybindery
แห่งนี้ เวลามักจะผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับต้องมนตร์
Book making for a new generation
WORDS: SATHITA HARITAIPAN
PHOTOS: EKAPHOP DUANGKHAM
Tippy Court ซอยสุขุมวิท 35 แห่งนี้ มีทั้งสนาม
เทนนิส สระว่ายน้ำาขนาดกะทัดรัด และแวดล้อม
ไปด้วยตึกงานสถาปัตยกรรมยุค ’60s รวมถึง
ต้นไม้ร่มรื่น ทำาให้เหมือนได้ย้อนเวลาทุกครั้งที่เข้า
มาที่นี่ และหนึ่งสิ่งที่ทำาให้พื้นที่แห่งนี้ยิ่งมีเสน่ห์คือ สตูดิโอขนาด
กะทัดรัดที่ผู้คนแวะเวียนกันเข้ามาเรียนทำาสมุด สตูดิโอ ‘ลิเกบายเดอรี่’
(Likaybindery) คือสตูดิโอที่เก๋-พันทิพา ตันชูเกียรติ และเพื่อนสนิท
มะลิ จาตุรจินดา ร่วมกันก่อตั้งขึ้น “สตูดิโอแห่งนี้เกิดขึ้นมา 10ปีแล้วค่ะ
ตอนแรกหลังกลับจากอังกฤษ ทำางานในบริษัทได้ 2 ปี บริษัทก็ปิดตัวลง
เลยมีความคิดกับพี่ลิว่าอยากทำาอะไรที่เกี่ยวข้องกับกระดาษ เกี่ยวกับสมุด
ที่เราเรียนมา พี่ลิมีที่อยู่ตรงนี้ เราก็เลยมาทำาสตูดิโอ ในช่วง 3 ปีแรกทำา
สมุดวางขายตามร้าน Geo ก่อนค่ะ หลังจากนั้นจึงเปิดเป็นคอร์สสอนทำา
สมุดให้กับคนที่สนใจ เป็นคลาสเล็กๆมี 4-5 คน” เก๋กล่าว
เก๋จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์-
มหาวิทยาลัย ก่อนจะไปเรียนต่อปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ โดยใบแรก
เรียนด้าน Typography และในระหว่างนั้นเองได้รู้จักกับคำ าว่า Book Artist
เป็นครั้งแรกจากอาจารย์พิเศษที่มาสอนแล้วรู้สึกประทับใจ จึงตัดสินใจเรียน
ปริญญาโทด้าน Book Art อีกใบ “เราคิดว่าเท่มากเลย มันมีวิชาแบบนี้ด้วย
หรอ ที่อังกฤษจริงๆก็มีสอนอยู่แค่สองที่เท่านั้นเอง ส่วนในเมืองไทยไม่มีเลย
เลยตัดสินใจเรียนต่อ” และสำาหรับเธอแล้วการเรียนรู้ไม่ได้หยุดแต่เพียง
เท่านั้น เพราะเธอขวนขวายสนใจเรียนอะไรใหม่ๆอยู่เสมอ “ปีที่แล้วไป
เรียนทำาสมุดที่ฝรั่งเศสมาค่ะ เป็นคอร์สสั้นๆ 2 วัน ก็ได้เล่มนี้มา” เธอชี ้แจง
เมื่อเราสอบถามถึงสมุดสันโค้งที่งดงามเล่มหนึ่งบนโต๊ะ
นอกจากคลาสสอนทำาสมุดและสมุดทำามือที่ประณีตงดงามและมี
เพียงเล่มเดียวในโลกที่วางขายในร้าน It’s Happened to be a Closet
และ Vick’s รวมถึงงานดิสเพลย์ในบูติกจิวเวลรี่ Chavana แล้ว เธอยังรับ
ทำางานตามออร์เดอร์ของลูกค้าด้วย เช่น สมุดรวบรวมของที่เป็นที่ระลึก
แทนความทรงจำาต่างๆที่ลูกค้าสั่งเป็นของขวัญแด่คนพิเศษ บ้างก็
เป็นสมุดรวบรวมข้อความแชทกันทั้งหมดของฝ่ายชายหญิงก่อนจะตกลง
เป็นแฟนกัน แต่รวบรวมลงในสมุดที่หน้าตาดูจริงจังเหมือนกับตำาราเรียน
ซึ่งงานแบบนี้ทำาให้เธอได้พบเจอกับผู้คนที่หลากหลาย “เคสที่แปลกใจ
ที่สุดคงเป็นเคสที่ลูกค้ารวบรวมของทุกอย่างเกี่ยวกับคุณแม่ของเค้าใส่
ตะกร้ามาให้ เก๋ก็งงว่าเอ๊ะ มีขวดซอสด้วยหรอ มันเป็นซีอิ๊วดำาสูตรพิเศษ
ที่แม่เค้าทำาอาหารให้กิน เก๋ก็ต้องร่อนฉลากซอสออกมา แล้วใส่ลงไปกับ
สูตรอาหารในเล่มด้วย”
นอกจากนี้ เธอยังแบ่งเวลาไปสอนวิชา Bookmaker และ Paper
Studio ให้กับหลักสูตรนานาชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงวิชา
Book Design ให้กับนักศึกษาสาขา Communication Design มหา-
วิทยาลัยมหิดลด้วย เมื่อถามเรื่องแรงบันดาลใจ เธอตอบได้อย่างไม่ลังเล
ว่าคือการเดินทางท่องเที่ยว “แต่ก่อนเก๋จะเป็นคนเที่ยวไม่ยาว แต่เที่ยว
บ่อยๆ แต่เดี๋ยวนี้เริ่มเปลี่ยนไปแล้วค่ะ คือจะเที่ยวยาวขึ้น อย่างต่ำาไปครั้ง
ละ 20 วันขึ้นไป ชอบไปยาวๆ จะได้ลองใช้วิถีชีวิตตามจังหวะของที่นั่น
เก๋ชอบไปเมืองที่คนไม่พูดภาษาอังกฤษ เราพูดภาษาเค้าไม่ได้ เหมือนเรา
ได้รีเฟรช เซ็ตอัพตัวเองใหม่ การที่เราอยู่ที่ใดนานๆมันทำาให้เราติดกับ
มุมมองเดิมๆ เก๋ต้องไปเที่ยวให้ได้อย่างน้อยปีละครั้ง เวลาทำางานเราก็จะ
ทำางานหนักมาก ทำาๆๆๆอย่างเต็มที่ เหมือนกับรู้ว่าเดี๋ยวตัวเองก็จะได้ไป
เที่ยวแล้ว” เธอบอกเราด้วยสายตาเป็นประกาย
เราตระหนักว่าผู้หญิงคนนี้คือตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าการได้ทำ าในสิ่ง
ที่รักนั้นมีความสุขมากเพียงไร และความสุขนั้นยังได้กระจายมาให้แก่
คนรอบข้างด้วย “ถ้าถามถึงอนาคตของ Likaybindery ก็จะเป็นแบบ
นี้ไปเรื่อยๆค่ะ ผลงานขึ้นอยู่กับว่า ช่วงนั้นชอบอะไร แต่ใกล้ๆนี้เราจะ
มีการรีโนเวตสตูดิโอใหม่ค่ะ” เธอกล่าวพลางแย้มว่า ในเร็วๆ นี้ ทาง
Likaybindery จะมีโปรเจ็กต์นิทรรศการที่หัวหินด้วย
สามารถดูผลงานจากสตูดิโอลิเกบายเดอรี่ได้ที่ อินสตาแกรม: LIKAYBINDERY โทร.0 - 2258 8775,
089 – 699 - 6509 อีเมล phantipakk@yahoo.com หรือ mali.c@beourfriend.com.
และ Line Id: Likaybindery
061