สามหอไตร เล่มที่ 1 : หอไตรวัดระฆังโฆสิตาราม
You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
ควัามเป็นมาของการกอตังกรรมาธิิการอนุรักษ์์ฯ ไทยประเพณี<br />
๔๐ ปี กรรมาธิิการอนุรักษ์์ฯ จากหอไตรมาสูหอไตร<br />
นับตั้งแต่เริ่มการก่อตั้งสมาคมสถาปนิกสยามฯ มา การอนุรักษ์<br />
สถาปัตยกรรมก็ได้เป็นกิจกรรมที่ทางสมาคมให้ความสำคัญมาโดยตลอด<br />
มีการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรม เพื่อทำหน้าที่ใน<br />
การรณรงค์ส่งเสริมการอนุรักษ์งานศิลปสถาปัตยกรรมที่มีคุณค่าให้คงอยู่<br />
เพื่อเป็นมรดกของชาติต่อไป โดยถือเป็นประเพณีนิยมที่จะมีการพิจารณาให้<br />
รางวัลอาคารอนุรักษ์ดีเด่น เพื่อเป็นกำลังใจแก่ผู้ครอบครองโบราณสถานที่<br />
ดูแลรักษาและอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ในแต่ละปีเป็นประจำต่อเนื่องมา นอกจาก<br />
รางวัลสำหรับอาคารก็ยังมีรางวัลประเภทบุคคล และองค์กรที่ทำคุณประโยชน์<br />
ทางด้านการอนุรักษ์อีกด้วย แต่การลงมือปฏิิบัติอย่างเป็นรูปธรรมใน<br />
การอนุรักษ์อาคาร กลับมีเพียงครั้งเดียวในการอนุรักษ์หอพระไตรปิฎก<br />
วัดระฆัังโฆส ิตาราม ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๓ เมื่อนายทวีจิตร จันทรสาขา<br />
มาดำรงตำแหน่งนายกสมาคมสถาปนิกสยามฯ ได้มีแนวความคิดที่จะให้<br />
สมาคมได้ทำงานด้านการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทยประเพณีให้มีความชัดเจน<br />
ด้วยการจัดให้มีโครงการที่สามารถเป็นตัวอย่างของการอนุรักษ์สถาปัตยกรรม<br />
ที่ดีได้ เพื่อแสดงบทบาทของวิชาชีพสถาปนิกที่มีต่อสังคมได้อีกครั้ง โดยมี<br />
เป้าหมายให้สมาชิกของสมาคม และสาธารณชนเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการนี้<br />
ให้มากที่สุด จึงได้ขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ<br />
พ.ศ. ๒๕๕๑-๒๕๕๓ เพื่อจัดตั้ง “กรรมาธิการอนุรักษ์ฯ ด้าน<br />
สถาปัตยกรรมไทยประเพณี” ขึ้น เพื่อให้ดูแลงานด้านการอนุรักษ์<br />
สถาปัตยกรรมไทยประเพณีอย่างเป็นรูปธรรมอีกครั้ง นำนโยบายดังกล่าวไป<br />
สู่การปฏิิบัติ โดยมอบให้ ดร.วสุ โปษยะนันทน์ สถาปนิกชำนาญการพิเศษ<br />
(ตำแหน่งในขณะนั้น) สำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากรเป็นผู้รับผิดชอบ<br />
จัดตั้งคณะกรรมาธิการที่มาจากหลายหน่วยงาน หลายสถาบัน ทั้งภาครัฐ<br />
และเอกชน โดยทำหน้าที่เป็นผู้ริเริ่มในการจัดเตรียมข้อมูลเบื้องต้น ลงสำรวจ<br />
พื้นที่โดยคัดเลือกเป้าหมายการดำเนินงาน จากเกณฑ์ ๓ ประการ ได้แก่<br />
เป็นผลงานสถาปัตยกรรมไทยประเพณีที่มีคุณค่า มีความจำเป็นในการบูรณะ<br />
อย่างเร่งด่วน และผู้ครอบครองดูแลอาคารมีความสมัครใจในการดำเนินงาน<br />
ในที่สุดได้ข้อสรุปเป้าหมายของโครงการ คือ หอไตรวัดเทพธิดาราม ที่อยู่ใน<br />
สภาพวิกฤตที่ต้องการการอนุรักษ์อย่างเร่งด่วน ถึงพร้อมตามปัจจัยข้างต้น<br />
ทั้งหมด ทั้งยังมีงานก่อสร้างและตกแต่งทางสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย<br />
รวมศาสตร์ของงานช่างครบเกือบทุกประเภท จึงนำมาสู่โครงการอนุรักษ์<br />
หอพระไตรปิฎกอีกครั้งเมื่อเวลาได้ผ่านมาถึง ๔๐ ปีนับตั้งแต่การก่อตั้ง<br />
คณะกรรมาธิการอนุรักษ์ และเพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้สมาชิกของสมาคม<br />
สถาปนิกสยามฯ ที่สนใจงานด้านการอนุรักษ์มาร่วมกันสำรวจรังวัดจัดทำ<br />
แบบบูรณะอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ จึงได้เกิดแนวคิด “อาษ์า อาสา<br />
สถาปัตยกรรมไทย” ขึ้น ซึ่ง “อาษา” หมายถึง ASA : The Association<br />
of Siamese Architects Under Royal Patronage หรือสมาคมสถาปนิก<br />
สยามฯ “อาสา” หมายถึงโดยการทำงานของอาสาสมัคร เพื่อการอนุรักษ์<br />
“สถาปัตยกรรมไทย” มีการรับอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการทั้งที่เป็นสมาชิก<br />
ของสมาคม และผู้ที่มีความสนใจที่จะเรียนรู้การทำงานด้านการอนุรักษ์โดย<br />
ทั่วไป มาร่วมกันเก็บข้อมูลทางสถาปัตยกรรมของโบราณสถานเพื่อนำไป<br />
จัดทำเป็นแบบบูรณะ และเป็นการศึกษาข้อมูลทางวิชาการด้านสถาปัตยกรรม<br />
ไทยไปพร้อมๆ กัน เป็นการทำงานนอกเวลางานประจำของแต่ละคน<br />
ด้วยความสมัครใจ รวมทั้งการเผยแพร่ข้อมูลของโครงการ การทำ<br />
นิทรรศการ และสื่อในรูปแบบต่างๆ<br />
54<br />
หอไตรวััดระฆัังโฆัสิิตาราม<br />
ปฐมบทอาษา อาสา สถาปัตยกรรมไทย