3PL สู๠4PL - มหาวิà¸à¸¢à¸²à¸¥à¸±à¸¢à¸£à¸²à¸à¸ ัà¸à¸à¸£à¸°à¸à¸à¸£
3PL สู๠4PL - มหาวิà¸à¸¢à¸²à¸¥à¸±à¸¢à¸£à¸²à¸à¸ ัà¸à¸à¸£à¸°à¸à¸à¸£
3PL สู๠4PL - มหาวิà¸à¸¢à¸²à¸¥à¸±à¸¢à¸£à¸²à¸à¸ ัà¸à¸à¸£à¸°à¸à¸à¸£
Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
49<br />
เครื่องมือที่ใชในการวิจัย<br />
เครื่องมือที่ใชในการเก็บรวบรวมขอมูลในการวิจัยนี้คือ แบบสอบถาม ซึ่งเปนคําถาม<br />
แบบปลายปด และขอเสนอแนะที่เปนคําถามปลายเปด ซึ่งมีขั้นตอนการดําเนินการในการจัดสราง<br />
ตามลําดับดังนี้<br />
1. ศึกษาขอมูลเกี่ยวกับแนวคิดดานโลจิสติกส และการจัดการดานโลจิสติกส แบบ <strong>3PL</strong><br />
และ <strong>4PL</strong> จากตําราตางๆ ทั้งในและตางประเทศ รวมทั้งงานวิจัยตางๆที่เกี่ยวของเพื่อนํามาใชในการ<br />
สรางแบบสอบถาม<br />
2. กําหนดขอบเขตของแบบสอบถามที่จะเกี่ยวของกับตัวแปรที่มีอิทธิพลตอการ<br />
พัฒนาการจัดการดานโลจิสติกสแบบ <strong>3PL</strong> สู <strong>4PL</strong> ของบริษัทผูใหบริการดานโลจิสติกส ในเขต<br />
กรุงเทพมหานคร<br />
3. แบบสอบถามที่สรางขึ้นนี้จะเปนแบบปลายปด โดยแบงออกเปน 3 สวน ซึ่งมี<br />
รายละเอียดดังนี้<br />
สวนที่ 1 เปนคําถามเกี่ยวกับปจจัยพื้นของกลุมตัวอยาง เปนคําถามแบบตรวจสอบ<br />
รายการ (Check-list)<br />
สวนที่ 2 เปนคําถามที่เกี่ยวกับปจจัยของการเปลี่ยนแปลงของ <strong>3PL</strong> ที่มีอิทธิพลตอการ<br />
พัฒนาการจัดการดานโลจิสติกสแบบ <strong>3PL</strong> สู <strong>4PL</strong> ของบริษัทผูใหบริการดานโลจิสติกสจากความ<br />
คิดเห็นของกลุมตัวอยาง การสรางแบบสอบถามเปนคําถามแบบ มาตราสวนประมาณคา (Rating<br />
scale) โดยมีคําตอบใหเลือก 5 ตัวเลือก เปนการเรียงลําดับความสําคัญจากความสําคัญมากไปนอย<br />
คือ มากที่สุด มาก ปานกลาง นอย และนอยที่สุด<br />
สวนที่ 3 เปนคําถามเกี่ยวกับการพัฒนาการจัดการดานโลจิสติกสแบบ <strong>4PL</strong> ของ<br />
บริษัทผูใหบริการดานโลจิสติกสดานตางๆ ซึ่งแบบสอบถามเปนคําถามแบบมาตราสวนประมาณคา<br />
(Rating scale) โดยมีคําตอบใหเลือก 5 ตัวเลือก เปนการเรียงลําดับความสําคัญจากความสําคัญมาก<br />
ไปนอย คือ มากที่สุด มาก ปานกลาง นอย และนอยที่สุด<br />
วิธีการหาคุณภาพของเครื่องมือที่จัดทําขึ้นนี้ ประกอบดวย การหาความเที่ยงตรงและคาความ<br />
เชื่อถือได (Validity) และคาความเชื่อถือได (Reliability) โดยใชวิธีการดังนี้<br />
1. การทดสอบความเที่ยงตรง (Validity) ผูวิจัยไดนําแบบสอบถาม (Questionnaire) ที่ราง<br />
ขึ้นใหอาจารยที่ปรึกษาพิจารณาตรวจสอบเนื้อหา และโครงสรางแบบสอบถาม จากนั้นนํา<br />
แบบสอบถามที่แกไขแลวเสนอตอผูทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญดานการสรางเครื่องมือและดาน<br />
การศึกษา เพื่อตรวจสอบความเที่ยงตรง ของเนื้อหาพรอมทั้งพิจารณาความถูกตองชัดเจนของภาษา