ASA CREW VOL.17

แต่เด็กและผู้สูงอายุก็ให้ความสนใจกับโปรเจคนี้
ไม่น้อยไปกว่ากันในขั้นตอนของการทํางาน
โปรเจคนี้ คุณป้องบอกเราว่าได้เลือกบทสวด
พาหุงมหากา หรือชัยมงคลคาถามาใช้เป็น
เนื้อเรื่องเพราะเป็นบทที่เล่าถึงเรื่องราวการ
เอาชนะอุปสรรคของพระพุทธเจ้า ทําให้
สามารถนํามาทําเป็นภาพประกอบได้ง่ายกว่า
บทอื่นๆ และยังเป็นบทสวดที่ชาวพุทธส่วน
ใหญ่รู้จักดีในส่วนของการตีความเพื่อนํามาทํา
อนิเมชันนั้นทีมศิลปินเริ่มทําภาพขึ้นใหม่
ทั้งหมดโดยไม่ได้ยึดติดว่าการออกแบบภาพ
จะต้องเหมือนกับภาพจิตรกรรมฝาผนัง หรือ
ภาพไทยดั้งเดิมมีการนําภาพแบบจิตรกรรม
ฝาผนังมาใช้ในตอนต้นของการฉายภาพก่อน
จะเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบที่เป็นสมัยใหม่ขึ้น
และจบลงด้วยการฉายภาพซ้อนของ
พระประธานในอุโบสถวัดสุทธิวรารามโดยทีม
ศิลปินพยายามแยกแก่นและเปลือกของหลัก
คําสอนรวมถึงความเชื่อออกจากกัน กล่าวคือ
การละทิ้งเปลือกเดิมเหลือเอาไว้แค่แก่นที่ว่า
บทสวดนั้นคือคําสอนแล้วจึงสร้างเปลือกแบบ
ใหม่ซึ่งคือภาพอนิเมชันที่เล่าเรื่องราวแทนซึ่งก็
สามารถทําได้อย่างดีทีเดียว
The work of our last interviewee falls
closer within the scope of architecture.
The public might remember some of his
works from the art illustrations on the
walls of Wat Suthi Wararam by Bodhi
Theatre. Pong recounts how the project
began with the goal of attracting the
new generation to traditional spaces
like wats, through a form of art that
alters the general perception of the
site. The idea became popular and
not only attracted the new generation –
children and senior citizens were
also interested. According to Pong,
they decided to use the ‘Bahum’, or
Eight Victories and Blessings chant, as
their main storyline. This chant
tells the story of how the Buddha
overcame the eight challenges and
became victorious. Easily communicable
visually, the story is one that most
Buddhists know well. The art team
started with a blank slate, without
การฉายภาพลงบนผนังอุโบสถ
ของโพธิเธียเตอร์
Projection mapping on the
walls of the temple’s
ubosot by Bodhi Theatre
จากตัวอย่างที่ยกมาเราจะเห็นได้ว่าศิลปินสมัยใหม่แต่ละ
คนมีวิธีมองหรือทํางานร่วมกับความเชื่อที่ต่างกันไม่ว่าจะ
เป็นการใช้ศิลปะเพื่อเป็นสื่อของความเชื่อบางอย่าง การ
แยกศิลปะและความเชื่อออกจากกันโดยสิ้นเชิง หรือการ
แยกแก่นและเปลือกของความเชื่อออกจากกันเพื่อเล่าใหม่
ด้วยศิลปะ แต่ไม่ว่าจะด้วยแนวทางใดก็ทําให้ทั้งศิลปะและ
ความเชื่อสามารถพัฒนาหรือเผยแพร่ต่อไปได้ไม่ทางใดก็
ทางหนึ่ง และไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจจะเห็นศิลปินหน้า
ใหม่ๆ ที่มีวิธีในการทํางานบนขอบเขตของความเชื่อที่ต่าง
ออกไปจากนี้อีกก็ได้
Each contemporary artist has their own unique
way of approaching and expressing spirituality,
whether it be through art or against art. By
separating the message and the mode of
representation, they have succeeded in retelling
tradition and belief through contemporary forms
of art. It is a hopeful story that gives Thailand a
template for new representations of our tradition,
belief and spirituality.
adhering to the traditional murals or
paintings present in most Buddhist
temples. While these murals were
shown at the beginning of the
animation, the visuals adopt a more
contemporary style throughout the
course of the story and end with a
representation of the main statute of
Buddha from the wat. The goal of the
art team was to take the essence of the
religious teachings and embark on a
new interpretation. By abandoning the
extra information, the animation
managed to show the core message of
the chant while giving new form to it.
ASA CREW 17 66 67
Spiritual