You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
พุทธศักราช ๒๓๑๙ เจ้าพระยาจักรี เป็น<br />
แม่ทัพไปตีหัวเมืองทางตะวันออก เมือง<br />
นางรอง จำปาศักดิ์ อัตปือ โขงเจียม สุรินทร์<br />
สังขะและขุขันธ์ เสร็จราชการทัพครั้งนี้ได้เลื่อน<br />
ยศเป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก รับ<br />
พระราชทานเครื่องยศอย่างเจ้าต่างกรม<br />
พุทธศักราช ๒๓๒๑ สมเด็จเจ้าพระยามหา<br />
กษัตริย์ศึก เป็นแม่ทัพไปตีเมืองเวียงจันทน์ใน<br />
สงครามระหว่างกรุงธนบุรีและกรุงศรีสัตนา<br />
คนหุต หลวงพระบางและหัวเมืองขึ้น ได้อัญเชิญ<br />
พระแก้วมรกตกับพระบาง ซึ่งอยู่ที่เวียงจันทน์<br />
ลงมายังกรุงธนบุรี<br />
พุทธศักราช ๒๓๒๓ สมเด็จเจ้าพระยา<br />
มหากษัตริย์ศึก เป็นทัพไปปราบจลาจลที่กรุง<br />
กัมพูชายังไม่ทันเสร็จ เกิดจลาจลในกรุงธนบุรี<br />
จึงต้องยกทัพกลับ และปราบดาภิเษกเป็นพระ<br />
มหากษัตริย์<br />
จะเห็นได้ว่าราชการที่ทรงรับผิดชอบส่วน<br />
ใหญ่คือราชการทัพ แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า<br />
ทรงมีประสบการณ์การบริหารราชการฝ่าย<br />
พลเรือนอย่างดี ในช่วงปฏิบัติราชการในหน้าที่<br />
หลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรีต้องควบคุมดูแล<br />
ข้าราชการฝ่ายพลเรือนด้วยเมื่อแรกถวาย<br />
ตัวเข้ารับราชการในสมเด็จพระเจ้าตากสิน<br />
หลักเมือง ธันวาคม ๒๕๕๗<br />
มหาราช ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้า ฯ<br />
ให้กำกับราชการกรมพระตำรวจดูแลความ<br />
สงบเรียบร้อยในพระนครซึ่งเป็นราชการฝ่าย<br />
พลเรือน<br />
ความสามารถในการบริหารราชการแผ่นดิน<br />
และการรบทัพจับศึก เป็นปัจจัยสำคัญที่<br />
สนับสนุนความเจริญรุ่งเรืองในราชการของ<br />
สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก เป็นสิ่งที่มิได้<br />
สะสมขึ้นได้ในเวลาอันสั้นในรัชสมัยกรุงธนบุรี<br />
เท่านั้น ยังประกอบด้วยพัฒนาการที่สั่งสม<br />
ขึ้นมาจากกระบวนการขัดเกลาทางสังคม ซึ่ง<br />
มีพื้นฐานมาจากครอบครัว ทำให้สามารถมี<br />
พัฒนาการสั่งสมความรู้ ความถนัดและความ<br />
สามารถมาตั้งแต่วัยเยาว์<br />
เมื่อพิจารณาพระราชประวัติการรับราชการ<br />
ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก<br />
มหาราช จะเห็นว่าลักษณะหน้าที่ราชการ<br />
ของพระองค์ท่านในแต่ละช่วง อยู่กึ่งกลาง<br />
ระหว่างราชการทหารและพลเรือนมาตลอด<br />
ตั้งแต่ตำแหน่งหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี<br />
เป็นตำแหน่งนักบริหารระดับกลาง ที่มีหน้าที่<br />
จัดระเบียบและตรวจตราบัญชีกำลังพลของ<br />
ข้าราชการทั้งฝ่ายทหารและพลเรือนในเมือง<br />
นั้น เมื่อรับราชการในสมเด็จพระเจ้าตากสิน<br />
มหาราชทรงได้รับแต่งตั้งเป็นพระราชวรินทร์<br />
กำกับราชการกรมพระตำรวจเป็นงานกึ่ง ๆ<br />
ระหว่างทหารและพลเรือนเช่นกัน อย่างไรก็<br />
ดี กล่าวได้ว่าพระปรีชาสามารถทางการทหาร<br />
ของพระองค์มีความโดดเด่นกว่าพระปรีชา<br />
สามารถด้านพลเรือน ดังจะเห็นได้จากช่วงที่<br />
ได้รับพระราชทานเลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นพระยา<br />
อภัยรณฤทธิ์เมื่อเสร็จศึกปราบชุมนุมเจ้าพิมาย<br />
เป็นการก้าวหน้าในราชการจากพระปรีชา<br />
สามารถด้านการสงครามเป็นลำดับ จนถึง<br />
ระดับสูงสุดที่สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก<br />
ครั้นเมื่อเสด็จปราบดาภิเษกเป็นพระมหา<br />
กษัตริย์แล้ว จึงปรากฏชัดเจนว่าพระปรีชา<br />
สามารถในราชการฝ่ายพลเรือนนั้น มิได้แตก<br />
ต่างกันเลย เพราะในฐานะพระมหากษัตริยาธิ<br />
ราชทรงผสานพระปรีชาสามารถทั้งพลเรือน<br />
และทหารเข้าด้วยกัน ราชการฝ่ายพลเรือน<br />
นั้นดูจะมากกว่าราชการฝ่ายทหารซึ่งมีเฉพาะ<br />
ช่วงบ้านเมืองมีศึกสงครามพระปรีชาสามารถ<br />
ในราชการฝ่ายพลเรือนเป็นพื้นฐานให้กับพระ<br />
ราชกรณียกิจในการวางรากฐานระบบบริหาร<br />
ราชการแผ่นดิน และการพัฒนาประสิทธิภาพ<br />
ข้าราชการแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ กล่าวคือพระ<br />
ราชกรณียกิจในฐานะพระปฐมบรมราชจักรี<br />
วงศ์ หรือที่ทรงได้รับการสดุดีพระเกียรติคุณ<br />
ในฐานะ“พระผู้สร้าง” คือ การสถาปนาของ<br />
15