CPBS ปีที่ 1 ฉบับที่ 1

More documents

Recommendations

Info

16 CPBS JOURNAL Vol. 1 No. 1 January - June 2017 บทคัดย่อ การจัดการธุรกิจผ้าไหมของกลุ่มสตรีทอผ้าไหม อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น THAI SILK BUSINESS MANAGEMENT OF THAI SILK WEAVING WOMEN’S GROUPS IN CHONNNABOT DISTRICT, KHON KAEN PROVINCE วิภารัตน์ ทองกาสี 1 และจีราวัฒน์ มันทรา 2* Wiparat Thongkasee 1 and Jeerawat Mantra 2* คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย Faculty of Management Science, Loei Rajabhat University การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาการจัดการธุรกิจผ้าไหมของกลุ่มสตรีทอผ้าไหม อำเภอ ชนบท จังหวัดขอนแก่น 2) เพื่อเปรียบเทียบการจัดการธุรกิจผ้าไหมในด้านการตลาด ด้านบัญชีและด้าน การเงิน จำแนกตามข้อมูลลักษณะส่วนบุคคล ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ครั้งนี้คือ เป็นสมาชิกที่สนใจเข้าร่วมโครงการกลุ่มสตรีทอผ้าไหม อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น จำนวน 530 คน ผู้วิจัยคำนวณจำนวนกลุ ่มตัวอย่างโดยโดยใช้สูตรการคำนวณของทาโร่ ยามาเน่ ที่ระดับความเชื่อมั่น 95% ได้กลุ่มตัวอย่าง 227 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ F-test วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way Analysis of Variance) ผลการศึกษาพบว่า 1. การจัดการธุรกิจผ้าไหมของกลุ่มสตรีทอผ้าไหม อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น โดยภาพรวมอยู่ใน ระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านการเงิน รองลงมาคือ ด้านการตลาด ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ ด้านการผลิต 2. การเปรียบเทียบของระดับการจัดการธุรกิจผ้าไหมของกลุ่มสตรีทอผ้าไหม อำเภอชนบท จังหวัด ขอนแก่น จำแนกตามอายุ อาชีพหลัก และสถานภาพสมรส พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ 0.05 คำสำคัญ: การจัดการธุรกิจผ้าไหม กลุ่มสตรีทอผ้าไหม ผ้าไหม Abstract The objectives of this research were to study Thai silk business management of Thai weaving women’s groups in Chonnabot district, Khon Kaen province and to compare Thai silk business management of Thai weaving in marketing, accounting and finance. The 530- research population consisted of weaving women’s groups. A questionnaire was applied for data collection which earned data were analyzed by the computer program to obtain frequency, percentage, mean, standard deviation and F-test. The research findings were showed as follows: *2 Corresponding Author Email: jeerawat2516@gmail.com
วารสารบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 เดือนมกราคม – มิถุนายน พ.ศ. 2560 17 1. Thai silk business management of Thai weaving women’s groups in Chonnabot district, Khon Kaen province all factors to be their business management at a high level, when considered by asides were finance and marketing, that be valuable share least were production. 2. Thai silk business management of Thai weaving women’s groups in Chonnabot district, Khon Kaen province comparing were significantly different at the level 0.05 of the Thai weaving women’s groups whose age, occupation and marriage status. Keywords: Business management, Thai weaving women’s groups, Thai silk ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา ไหมไทยเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากภูมิปัญญา ศิลปะ วัฒนธรรมของไทยมายาวนาน และเป็นที่รู้จักไปทั่ว โลก ผ้าไหมที่ได้ผลิตจากประเทศไทยนั้นเป็นสินค้าที่ได้รับการยอมรับในคุณภาพและชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของ โลก เพราะในแต่ละปีประเทศก็ได้มีการส่งออกไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก โดยตลาดที่ประเทศส่งออกสินค้าไป ยังอันดับ 1 คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา รองลงมาคือ ประเทศญี่ปุ่น ประเทศอิตาลี ประเทศอังกฤษ และประเทศ ฝรั่งเศส ตามลำดับ ประเทศไทยยังได้มีการขยายกลุ่มที่ทำการส่งออกเพิ่มขึ้น อีกโดยทำการส่งออกไปยัง ประเทศสิงคโปร์ ออสเตรเลีย ฮ่องกง และไต้หวัน โยมูลค่าการส่งออกผ้าไหมไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง “ การเลี้ยงไหมนอกจากจะเป็นการเสริมรายได้ให้แก่เกษตรกรแล้ว ยังเป็นวัฒนธรรมที่เก่าแก่และดี งามของชาติที่ได้สืบสานกันมานานอีกด้วย ไม่ว่าเศรษฐกิจของประเทศจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร การพัฒนาการ เลี้ยงไหมจะต้องดำเนินต่อไป ” ในอดีตการเลี้ยงไหม ทอผ้าไหมมีการทำกันในลักษณะที ่เป็นครัวเรือนขนาดเล็ก และใช้บริโภคเองภายในครัวเรือน มีการทำเองไปใช้ในงานพิธีงานต่างๆ เช่น งานบุญ งานบวช งานแต่งงาน เป็นต้น พระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ได้แสดงให้เห็นถึงปณิธานที่ทรงมีต่อผ้า ไหมไทย ความสำคัญของอาชีพผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และผ้าไหมยังสร้างรายได้เสริมให้แก่เกษตรกร โดยการ ทอผ้าไหมจะทำผ้าไหมจะทำในช่วงที่ไม่มีการปลูกและเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรเท่านั้น แต่ในปัจจุบัน เกษตรกรบางรายได้นำผ้าไหมมาเป็นอาชีพหลักเพื่อเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว สำหรับผลิตภัณฑ์ผ้าไหมไทยไว้ 4 ชนิด นกยูงสีทอง(Royal Thai Silk) เป็นผ้าไหม ซึ่งผลิตจากวัตถุดิบ เส้นไหม กระบวนการผลิตแบบภูมิ ปัญญาพื้นบ้านดั้งเดิมของไทยอย่างแท้จริงและใช้เส้นไหมพันธุ์ไทยพื้นบ้านเป็นทั้งเส้นพุ่งและเส้นยืน เส้นไหม จะต้องสาวเส้นด้วยมือผ่านพวงสาวลงภาชนะ การทอด้วยกี่ทอมือแบบพื้นบ้านชนิดพุ่งกระสวยด้วยมือ ย้อม ด้วยสีธรรมชาติ หรือสีเคมีที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และต้องผลิตในประเทศไทย นกยูงสีเงิน (Classic Thai Silk) เป็นผ้าไหมซึ่งผลิตขึ้นแบบภูมิปัญญาพื้นบ้านผสมผสานกับการประยุกต์ใช้เครื่องมือและกระบวนการผลิตในบาง ขั้นตอน ใช้เส้นไหมพันธุ์ไทยพื้นบ้านหรือที่ได้รับการปรับปรุงจากพันธุ์ไทยเป็นเส้นพุ่ง หรือเส้นยืน เส้นไหมต้อง ผ่านการสาวด้วยมือ หรืออุปกรณ์ที่ใช้มอเตอร์ขับเคลื่อนขนาดไม่เกิน 5 แรงม้า การทอต้องทอด้วยกี่ทอมือชนิด พุ่งกระสวยด้วยมือหรือกี่กระตุก และต้องทำการผลิตในประเทศไทย นกยูงสีน้ำเงิน (Thai Silk) เป็นผ้าไหมซึ่ง ผลิตด้วยภูมิปัญญาของไทยโดยการประยุกต์เทคโนโลยีการผลิต ให้เข้ากับสมัยนิยมและทางธุรกิจธุรกิจ ใช้เส้น ไหมแท้เป็นเส้นพุ่งและเส้นยืน ย้อมสีด้วยสีธรรมชาติ หรือ สีเคมีที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ทอด้วยกี่แบบใดก็ได้ และต้องผลิตในประเทศไทย นกยูงสีเขียว (Thai Silk Blend) เป็นผ้าไหมซึ่งผ่านกระบวนการผลิตและ เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ผสมผสานกับภูมิปัญญาไทย เช่น ลวดลาย สีสัน ใช้เส้นใยไหมแท้กับเส้นใยอื่นที่มาจาก วัสดุธรรมชาติ หรือเส้นใยสังเคราะห์ต่างๆ ตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน หรือตามความต้องการของผู้บริโภค
Page 1: CPBS JOURNAL of Business and Accoun
Page 4 and 5: พันเอก ผู้ช่
Page 7 and 8: วารสารบริหา
Page 21: วารสารบริหา
Page 71: วารสารบริหา

CPBS ปีที่ 1 ฉบับที่ 1

You also want an ePaper? Increase the reach of your titles

Delete template?

Save as template?