Data2556
Data2556
Data2556
You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
582<br />
ขอมูลพื้นฐานของตางประเทศ<br />
2556<br />
ดินแดนเหลานี้เปนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย<br />
ตามชื่อราชวงศอัลซะอูด<br />
เมื่อ<br />
23 ก.ย.2475 โดยมีริยาด<br />
เปนเมืองหลวงมาจนถึงปจจุบัน<br />
วันชาติ 23 ก.ย. (วันประกาศการรวมราชอาณาจักรเมื่อ<br />
23 ก.ย.2475)<br />
การเมือง ปกครองดวยระบอบราชาธิปไตย (Monarchy) ซึ่งมีสมเด็จพระราชาธิบดี<br />
(Malik) ทรงเปน<br />
พระประมุขของรัฐ อีกทั้งทรงเปนหัวหนารัฐบาลดวยการทรงดํารงตําแหนง<br />
นรม. อยางไรก็ดี พระราชอํานาจ<br />
ของสมเด็จพระราชาธิบดียังคงถูกจํากัดอยู ภายใตบทบัญญัติของศาสนาอิสลาม (ชารีอะฮ) และราชประเพณี<br />
ของราชวงศอัลซะอูดที่จะตองไดรับฉันทานุมัติจากสมาชิกพระราชวงศและผูทรงคุณวุฒิทางศาสนา<br />
(อุลามาอ) ขณะเดียวกันก็มีความพยายามยกสถานะทางศาสนาของสถาบันกษัตริยซาอุดีอาระเบียใหโดดเดน<br />
ในโลกมุสลิมมากขึ้น<br />
โดยในรัชสมัยสมเด็จพระราชาธิบดีฟะฮัด บิน อับดุลอะซีซ ทรงประกาศพระองคเปน<br />
“ผู พิทักษมัสยิดศักดิ์สิทธิ์ทั้งสอง”<br />
(The Custodian of the Two Holy Mosques) อันหมายถึงมัสยิดหะรอม<br />
ที่นครมักกะฮ<br />
และมัสยิดนะบะวียที่นครมะดีนะฮ<br />
ศาสนสถานสําคัญที่สุดของศาสนาอิสลาม<br />
นอกจากนี้<br />
ยังทรงโปรดใหใชตําแหนงดังกลาวแทนคําหนาพระนามวา “His Majesty” ทั้งนี้<br />
ธรรมเนียมในการเรียกขาน<br />
ดังกลาวยังคงไดรับการปฏิบัติสืบมาจนถึงรัชสมัยปจจุบันของสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอฮ บิน อับดุลอะซีซ<br />
ที่เสด็จขึ้นครองราชยเมื่อ<br />
1 ส.ค.2548<br />
ฝายบริหาร : สมเด็จพระราชาธิบดีทรงขึ้นครองราชสมบัติและดํารงตําแหนง<br />
นรม.ดวยการ<br />
สืบสันตติวงศโดยการรับรองของอุลามาอ และทรงแตงตั้ง<br />
ครม. (Council of Ministers) ที่มีวาระดํารงตําแหนง<br />
4 ป สวนใหญเปนสมาชิกพระราชวงศ มีหนาที่ในการกําหนดนโยบายและกํากับการทํางานของภาคราชการ<br />
อยางไรก็ดี มีความพยายามสรางระบบการสืบราชสมบัติใหรัดกุมเปนระบบมากขึ้น<br />
เพื่อปองกันมิใหเกิดการ<br />
แยงชิงราชสมบัติในอนาคต โดยสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอฮทรงออกพระราชกฤษฎีกาเมื่อ<br />
ต.ค.2549<br />
จัดตั้งสภาบัยอะฮ<br />
(Allegiance Commission) ซึ่งเปนกลุ<br />
มสมาชิกพระราชวงศระดับสูงที่จะมีบทบาทในการ<br />
คัดเลือกบุคคลที่จะขึ้นครองราชยเปนสมเด็จพระราชาธิบดีและมกุฎราชกุมารในอนาคต<br />
สําหรับการประชุม<br />
สภาบัยอะฮครั้งลาสุดมีขึ้นเมื่อ<br />
18 มิ.ย.2555 โดยมีมติใหสถาปนาเจาชายซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ<br />
เปนมกุฎราชกุมารองคใหม แทนมกุฎราชกุมารนะอีฟ บิน อับดุลอะซีซ ซึ ่งสิ้นพระชนม<br />
เมื่อ<br />
16 มิ.ย.2555<br />
ฝายนิติบัญญัติ : มีสภาที่ปรึกษา<br />
(Consultative Council หรือ Majlis al-Shura) ซึ่งประกอบดวย<br />
สมาชิก 150 คน ทั้งหมดมาจากการแตงตั้งโดยสมเด็จพระราชาธิบดี<br />
วาระดํารงตําแหนง 4 ป แตมีอํานาจ<br />
ในการออกกฎหมายอยางจํากัด เนื่องจากกฎหมายสวนใหญมักประกาศใชดวยการออกมติ<br />
ครม.ที่ไดรับการ<br />
รับรองโดยสมเด็จพระราชาธิบดี นอกจากนี้<br />
ยังไมมีระบบพรรคการเมืองในซาอุดีอาระเบีย แตมีการรวมกลุ ม<br />
ผลประโยชนในรูปแบบอื่นๆเพื่อเรียกรองทางการเมือง<br />
ไดแก กลุ มศาสนา กลุ มธุรกิจนํ้ามัน<br />
และกลุ มรณรงค<br />
เพื่อสิทธิสตรี<br />
ฝายตุลาการ : ใชระบบศาลศาสนาตามกฎหมายชารีอะฮของศาสนาอิสลามทั้งคดีแพงและ<br />
อาญา โดยยึดหลักนิติศาสตรอิสลาม (ฟกฮ) ของสํานักคิดฮัมบาลี ผูพิพากษามาจากการแตงตั้งโดยสมเด็จ<br />
พระราชาธิบดีตามคําแนะนําของสภายุติธรรมสูงสุด (Supreme Council of Justice) ซึ่งประกอบดวย<br />
คณะผู พิพากษาและผู เชี่ยวชาญดานกฎหมาย<br />
12 คน ทั้งนี้<br />
ความเปนอิสระของฝายตุลาการไดรับการคุ มครองตาม<br />
กฎหมาย ขณะที่สมเด็จพระราชาธิบดีทรงมีพระราชอํานาจเด็ดขาดในการพระราชทานอภัยโทษแกผู<br />
กระทําผิด<br />
เศรษฐกิจ การคนพบแหลงนํ้ามันในซาอุดีอาระเบียเมื่อ<br />
3 มี.ค.2481 กลายเปนแหลงที่มาแหงความ<br />
มั่งคั่งของประเทศ<br />
อีกทั้งเปนเครื่องมือที่ทําใหซาอุดีอาระเบียมีอํานาจตอรองในเวทีระหวางประเทศมากขึ้น<br />
เฉพาะอยางยิ่งหลังจากมีการรวมตัวของกลุมประเทศผูผลิตนํ้ามันเพื่อผูกขาดการสงออกนํ้ามัน<br />
ดวยการ<br />
จัดตั้งกลุมประเทศผูสงออกนํ้ามัน<br />
(OPEC) ขึ้นเมื่อป<br />
2503 ปจจุบัน ซาอุดีอาระเบียเปนประเทศที่มีขนาด<br />
เศรษฐกิจใหญที่สุดในสันนิบาตอาหรับ<br />
ขณะที่อุตสาหกรรมนํ้ามันมีสัดสวนมากถึง<br />
45% ของผลิตภัณฑ