ASA JOURNAL Vol.2 | 2018
Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
post<br />
ภาพที่ 4 : แสดงองค์ประกอบพื้นที่ใช้สอยในเรือนหลัก<br />
Image 4 : Compositions of functional spaces of the main house<br />
4. การกหนดขนาดและสัดส่วน<br />
เรือนไทใหญ่กำหนดขนาดเรือนตามสัดส่วนคน มีหน่วยวัดพื้นฐาน คือ คืบ ศอก และวา โดย<br />
กำหนดขนาดและสัดส่วนเรือนไว้ดังแสดงในภาพที่5 ขนาดมาตรฐานที่พบมาก คือ เรือนสามห้องและ<br />
ห้าห้อง มีสิบสองเสาและสิบห้าเสา จากการวัดช่วงเสาพบว่าแต่ละช่วงเสามีระยะประมาณหนึ่งวาเศษ<br />
หรือประมาณสองเมตรกว่า 5 ส่วนช่วงเสาด้านสกัดจะมีช่วงกว้างกว่าด้านยาวเล็กน้อย คือ ประมาณ<br />
วาครึ่ง หรือราวเกือบสามเมตรเศษ เรือนมาตรฐานสามห้องจึงมีขนาดกว้างห้าเมตรเศษกว่าถึงหกเมตร<br />
เศษและยาวเจ็ดถึงแปดเมตรเศษ การขยับขยายเป็นเรือนสี่หรือห้าห้อง ใช้การเพิ่มช่วงเสาไปตามยาว<br />
ไปพร้อมกับการเพิ่มระยะช่วงเสาด้านสกัดตาม สูตรคุมสัดส่วนกว้างต่อยาวในภาพรวม คือ ไม่เกิน<br />
1:2 โดยสัดส่วนที่พบมากคือ 1:1.5<br />
เรือนขนาดมาตรฐานที่กล่าวนี้เป็นเรือนเดี ่ยวแบบพื้นฐานของครอบครัวที่อยู่ร่วมกัน 2-3 รุ่น<br />
แบบครอบครัวขยายของไท กรณีเรือนที่ตั้งครอบครัวใหม่และยังไม่มีลูก มักสร้างเรือนขนาดสามห้อง<br />
มีแปดเสาด้วยไม้ไผ่หรือไม้จริงบางส่วนแล้วจึงขยับขยายตามการเติบโตต่อไป อย่างไรก็ตาม แบบ<br />
เรือนที่พบมากในปัจจุบัน คือ เรือนสองจั่ว ในลักษณะขยายตัวหรือสร้างพร้อมกันในคราวเดียว หลัก<br />
การพิจารณาเรือนหลักให้ดูจากเรือนที่มีเสามงคลกำกับและมักใช้เป็นที่นอนเจ้าเรือน ส่วนเรือนรอง<br />
มักสร้างให้เล็กกว่าเรือนหลักอยู่เล็กน้อย เรียกว่า เรือนอ่อนหรือเรือนเล็ก ใช้เป็นครัว และ/หรือ ส่วน<br />
นอนของลูกชายที่แต่งงานแล้ว<br />
การกำหนดความสูงในแนวตั้งมีสูตรชัดเจนเช่นกัน ความสูงของการยกเรือนเป็นไปตามความ<br />
พร้อมของครัวเรือนเมื่อแรกตั้ง ซึ่งพบว่ามีระดับความสูงต่างกัน คือ เรือนต่ำมักสูงเพียงสุนัขลอดได้<br />
บางครั้งเรียกว่า เรือนหมานั่ง 6 เป็นเรือนของครอบครัวใหม่ที่มีทรัพยากรน้อย หรือต้องการสร้างอย่าง<br />
ง่ายและรวดเร็ว เนื่องจากพึ่งอพยพใหม่ใช้หลังคาแบบเพิง ขยับความสูงขึ้นมาอีกระดับเป็นเรือนยกพื้น<br />
สูงไม่เกินเอวหรือราวหนึ่งเมตร เรียกว่า เรือนเพียงเอว ใช้ในกรณีที่เจ้าเรือนมีทรัพยากรน้อย จึงเลือก<br />
สร้างให้พออยู่ได้ส่วนเรือนแบบมาตรฐานมักยกพื้นพอให้คนเดินลอดได้เรียกว่า เรือนห้าง การกำหนด<br />
ความสูงแนวตั้งนิยมใช้หน่วยวัดเป็นศอกและบวกเพิ่มด้วยหน่วยคืบ โดยแบ่งสูตรความสูงเป็นสาม<br />
ช่วงเช่นกัน คือ ช่วงใต้เรือนประมาณ 4-5 ศอก ช่วงเหนือเรือนประมาณ 4-5 ศอก (มักให้สูงกว่าส่วน<br />
ใต้เรือนเล็กน้อย) และช่วงจอมเรือนหรือยอดเรือน 3-5 ศอก การกำหนดความชันหลังคา ใช้สูตรเทียบ<br />
ความสูงดั้งกับระยะกึ่งกลางขื่อ โดยให้มีความสูงดั้งน้อยกว่าระยะกลางขื่อเล็กน้อย เมื่อตรวจสอบ<br />
ความชันมาตรฐานพบว่ามีความชันประมาณ 35-40 องศา ความสูงเรือนจากพื้นดินถึงยอดหลังคา<br />
โดยรวม เท่ากับ ประมาณ 10-15 ศอก หรือประมาณ 5-8 เมตร<br />
16 17<br />
วารสารสถาปัตยกรรมของสมาคมสถาปนิกสยาม<br />
5<br />
ระยะนี้มีความเหมาะสมกับขนาดเสื่อนอนและมุ้งคลุมสำหรับหนึ่งครอบครัวที่ประกอบด้วยพ่อ ในพระบรมราชูปถัมภ์ Issue 02 / <strong>2018</strong><br />
แม่และลูกที่ยังเล็ก<br />
6 The Architectural Journal of The Association of Siamese Architects<br />
เช่น กรณีภัยพิบัติหรือการอพยพฉับพลัน under the Royal Patronage ซึ่งพบได้บ่อยครั้งจากปัญหาภัยธรรมชาติหรือภัยสงคราม<br />
5. โครงสร้าง<br />
ภาพที่ 5 : การกหนดขนาดและสัดส่วนเรือน<br />
Image 5 : Specification of sizes and proportions of a Tai Yai house<br />
ระบบโครงสร้างประกอบด้วยโครงแนวตั้งและนอนเป็นสำคัญดังภาพที่ 6 ช่างพื้นถิ่นไทใหญ่<br />
ได้กล่าวว่า ถ้าจะสร้างเรือนต้องเตรียมไม้เก้ากองไว้ให้พร้อมก่อน ไม้ทั้งเก้ากองนี้รวบรวมส่วนประกอบ<br />
โครงสร้างเรือนไม้ไว้ครบถ้วน ประกอบด้วย 1 เสา 2 คาน 3 ตง 4 ขื่อ 5 แป 6 กลอน 7 ฝา 8 ฟาก 9 คา<br />
การสะสมไม้เป็นหน้าที่ของพ่อและลูกชายที่ต้องช่วยกันสะสมทรัพยากรไว้สร้างหรือขยายเรือนเมื่อ<br />
ออกลูกชายออกเรือน ไม้กองที่สำคัญและหายากที่สุด คือ เสา เพราะทำหน้าที่รับน้ำหนัก ยึดโยงเรือน<br />
สู่พื้นดินและเชื่อมโยงเรือนสู่ท้องฟ้า การจะหาไม้ที่มีลำต้นตรง สวยงาม ไม่มีตำหนิ และมีความยาว<br />
10-15 ศอก จำนวน 12-15 ต้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ฤดูกาลหนึ่งอาจสะสมไม้เสาได้เพียง 2-3 ต้นเท่านั้น<br />
ลูกผู้ชายกว่าจะมีภรรยาได้จึงต้องอดทนรอเวลาให้ได้ไม้พอ สำหรับงานของผู้หญิงในการ เตรียมไม้<br />
เก้ากองเป็นงานแบบย่อยมือย่อยตีนหรืองานละเอียด ได้แก่ การสานฟากทำพื้น ฝา และการเรียงคา<br />
ไว้มุงหลังคา ดังนั้น การแบ่งแรงงาน (Division of labour) คือ ผู้ชายทำโครงสร้าง ผู้หญิงทำเปลือก<br />
อาคาร ตลอดจนสนับสนุนเสบียงอาหารระหว่างการปลูกสร้าง<br />
วารสารสถาปัตยกรรมของสมาคมสถาปนิกสยาม<br />
ในพระบรมราชูปถัมภ ์ Issue 02 / <strong>2018</strong><br />
The Architectural Journal of The Association of Siamese Architects<br />
under the Royal Patronage