10.07.2015 Views

et al. - สืบค้น แบบ ไล่ เรียง - กรมทรัพยากรธรณี

et al. - สืบค้น แบบ ไล่ เรียง - กรมทรัพยากรธรณี

et al. - สืบค้น แบบ ไล่ เรียง - กรมทรัพยากรธรณี

SHOW MORE
SHOW LESS
  • No tags were found...

Create successful ePaper yourself

Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.

88บทที่ 5(ความหนาของชั้นหินทรายจะลดลงในส่วนบน อาจหนา1-3 ซม.) แทรกสลับแบบชั้นต่อชั้น (even bed) กับหินโคลน สีเทา (รูปที่ 4.42 และ 4.43) ชั้นหินทรายสามารถติดตามทางด้านข้างได้ไกล (par<strong>al</strong>lel bed, goodlater<strong>al</strong> continuity) แม้ว่าจะเป็นชั้นบางๆ เมื่อสังเกตใกล้ๆ พบว่าชั้นหินทรายแต่ละชั้นมีความหนาทางด้านข้างเปลี่ยนแปลงบ้าง บางบริเวณอาจมีผลึกของแร่ไพไรต์และบางบริเวณแสดงแนวชั้นเฉียงระดับ (Crosslamination) รอยสัมผัสระหว่างหินทรายกับหินโคลนที่อยู่ข้างล่างเป็นแบบ erosion<strong>al</strong> contact ส่วน uppercontact ของหินทรายเปลี่ยนไปเป็นหินโคลนมีทั้ง sharpand gradation<strong>al</strong> contacts อัตราส่วนของหินทรายต่อหินโคลน ประมาณมากกว่า 2:1 ถึง 1:2 มักแสดงโครงสร้าง Thinning and fining upward sequenceคือมีทั้งขนาดของเม็ดตะกอนและความหนาของชั้นหินน้อยลงในส่วนบน (รูปที่ 4.42) พวก Bioturbation พบทั่วไปโดยเฉพาะในชั้นของหินโคลนสลับหินทราย ปกติเป็นแท่งกลมยาวเดี่ยว วางตัวเอียงกับแนวชั้นหินถึงขนานกับแนวชั้นหิน (รูปที่ 4.4 และ 4.43) Thin beddedsandstones and mudstones facies มักพบมีSlumped structure (Disturbed strata facies) เกิดร่วมด้วย และมักพบเปลี่ยนขึ้นไปเป็น Laminatedmudstone faciesการแผ่กระจายและเทียบเคียง: Thin beddedsandstones and mudstones facies นี้พบในหมวดหินแหลมไม้ไผ่ โผล่เห็นชัดเจนที่ชายหาดบ้านแหลมไม้ไผ่Facies นี้เทียบได้กับ Sharp based sandstones andmudstones facies ของ Mitchell (1970), Thin-beddedor laminated siltstones and sandstones facies ของAltermann (1987), และ Alternating Sandstones andsiltstones facies ของ Hills (1989)การแปลความหมาย: ลักษณะการแทรกสลับของหินทรายกับหินโคลนที่มีความหนาของชั้นหินแต่ละชั้นค่อนข้างคงที่และมีผิวด้านล่างของหินทรายเป็นแบบerosion<strong>al</strong> surface นี้ เป็นลักษณะเด่นเฉพาะตัวของหินที่สะสมตัวในน้ำที่ค่อนข้างสงบนิ่งหรือลึก ในกรณีนี้หลักฐานจากซากดึกดำบรรพ์บ่งเป็นน้ำทะเล แต่จากการพบชั้นเฉียงระดับบ้างในหินทรายรวมทั้งการมีBurrows พวก Cruziana ichnofacies เกิดร่วมด้วยแสดงว่าคงไม่ใช่ทะเลลึกมาก และจากการที่มักพบมีโครงสร้าง Slumped structure เกิดร่วมด้วยแสดงว่าต้องเป็นส่วนที่ท้องทะเลมีความลาดชัน โครงสร้างThinning and fining upward sequence มักพบในส่วนของ channel and levee ถึง interchanneldeposits ของ middle submarine fan (Mutti andRicci Lucchi, 1972; W<strong>al</strong>ker, 1985) ซึ่งในที่นี้น่าจะเกิดในส่วนของ shelf ถึง continent<strong>al</strong> slope 2) Laminated mudstones faciesประกอบด้วยหินโคลน สีเทา ที่แสดงแนวของชั้นหินชัดเจน แต่ละชั้นมีความหนาน้อยกว่า 1 ซม. และสามารถติดตามแนวของชั้นหินทางด้านข้างได้ไกล (par<strong>al</strong>lel bedand good later<strong>al</strong> continuity) หรือ ที่เรียกว่าชั้นหินแบบขนมชั้น (รูปที่ 4.5, 4.44, 4.50 และ 4.57) แนวชั้นหินเกิดเนื่องจากหินโคลนมีชั้นหินทรายแป้งแทรกสลับ โดยหินทรายแป้งมีความหนาชั้นละประมาณ 0.1–0.5 ซม. มีรอยสัมผัสระหว่างหินโคลนกับหินทรายแป้งทั้งบนและล่างเป็นแบบ sharp contacts มีอัตราส่วนของหินโคลนต่อหินทรายแป้งประมาณ 2:1 หรือมากกว่า พวกร่องรอยของซากดึกดำบรรพ์ หรือ Bioturbation พบบ้างในบางบริเวณเป็นรูกลมวางตัวในแนวราบ เป็นพวก Planolitesในบางจุดอาจพบก้อนกรวดหรือ Lonestone ที่มีขนาดต่างจากเนื้อหินมากแทรก ปนด้วย เช่น ที่แหลมพับผ้ามีกรวดขนาด 30x45x15 ซม.(กxยxส) Laminatedmudstones facies มักพบวางต่อเนื่องอยู่บน Thinbedded sandstones and mudstones facies เช่น ที่โผล่เห็นได้ดีที่ชายหาดบ้านแหลมไม้ไผ่ แหลมตุ๊กแก และที่แหลมพับผ้าการแผ่กระจายและเทียบเคียง: Laminatedmudstones facies นี้พบในหมวดหินแหลมไม้ไผ่ โผล่เห็นชัดเจนที่ชายหาดบ้านแหลมไม้ไผ่ นอกจากนี้ยังพบได้ดีที่อ่าวปลื้มสุข บ้านแหลมตุ๊กแก แหลมพันวา และแหลมพับผ้า Facies นี้เทียบได้กับ Laminated mudstonesfacies ของ Mitchell (1970), Thin-bedded orlaminated mudstones facies ของ Altermann Revised Lithostratigraphy of the Kaeng Krachan Group

Hooray! Your file is uploaded and ready to be published.

Saved successfully!

Ooh no, something went wrong!