14บทที่ 22.2 ด้านบรรพชีวินวิทยาของกลุ่มหินแก่งกระจานก า ร เ ป รี ย บ เ ที ย บ โ ด ย ใ ช้ ช นิ ด ข อ งซากดึกดำบรรพ์ เป็นงานวิจัยมาตรฐานที่ใช้หาความสัมพันธ์ด้านสภาพภูมิศาสตร์บรรพกาลและความสัมพันธ์ของแผ่นเปลือกโลก จากหลักการที่ว่าสิ่งมีชีวิตประเภทเดียวกันจะมีสภาพแวดล้อมของการเจริญเติบโตที่คล้ายกัน ดังนั้นพื้นที่ในปัจจุบันที่พบซากดึกดำบรรพ์ชนิดเดียวกัน ในช่วงการสะสมตัวของชั้นหินก็ควรจะมีตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่ใกล้เคียงกัน เช่น Archboldand Singh (1993) พบว่าแบรคิโอพอดของยุคเพอร์เมียนตอนต้นของบริเวณภูเขาหิมาลัยมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับของภาคตะวันตกของออสเตรเลีย ซึ่งแสดงว่าพื้นที่ทั้งสองบริเวณในช่วงเวลาดังกล่าวเคยอยู่ใกล้กันมาก่อน Dickin <strong>et</strong> <strong>al</strong>. (1993) ใช้ซากดึกดำบรรพ์ยุคเพอร์เมียนตอนต้นของบริเวณคาบสมุทรอินเดีย ภูเขาหิมาลัยและทิเบต เพื่อศึกษาการเปลี่ยนของสภาพภูมิอากาศจากน้ำทะเลเย็นไปเป็นน้ำทะเลอบอุ่น ซึ่งทั้งสามบริเวณเคยเป็นส่วนหนึ่งของมหาทวีปกอนด์วานาลักษณะการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวที่เปลี่ยนจากหินที่สะสมตัวในน้ำทะเลเย็นเปลี่ยนขึ้นไปเป็นน้ำทะเลอบอุ่นจะพบในประเทศไทยด้วย โดยพบในกลุ่มหินแก่งกระจานและกลุ่มหินราชบุรี ปัญหาที่น่าสนใจประการหนึ่งคือกลุ่มหินแก่งกระจานควรมีอายุเริ่มต้นที่ใด Upper Carboniferousหรือ Lower Permian หรืออย่างอื่น และความถูกต้องของการตรวจซากดึกดำบรรพ์มีเพียงใดกลุ่มหินแก่งกระจานเดิม Piyasin (1975b) ให้มีอายุ Upper Devonian to Upper Carboniferousจากการพบซากดึกดำบรรพ์ที่ไม่สมบูรณ์พวก Chon<strong>et</strong>essp. ในหมวดหินห้วยพุน้อยซึ่งให้อายุ Upper Devonianและในหมวดหินเขาพระที่เขาพระและเขากอก พบFenestella cf. triseri<strong>al</strong>is Ulrich และ Polypora cf.gracilis Prout ให้อายุ Upper Carboniferous ต่อมาพบซากดึกดำบรรพ์มากมายในหลายพื้นที่ จากส่วนบนของกลุ่มหินมีอายุ เพอร์เมียนตอนต้น เช่นที่ เกาะมุก เกาะพีพี เกาะยาวน้อย เขาพระ (Waterhouse, 1982;Pitakpaivan and Mantajit, 1981; Shi <strong>et</strong> <strong>al</strong>., 2001) แต่อายุของ Bryozoa ที่ได้จะขัดแย้งกับของ Sakagami (1968a, 1968b, 1968c) ที่ให้เป็น Lower Permian โดยทำการศึกษา bryozoa บริเวณเขาตาม่องไร่ เขาช่องกระจก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เขาพริก จังหวัดราชบุรีพบว่า bryozoa เกิดร่วมในหินทราย สีน้ำตาล และหินปูนสีเทา และได้แบ่ง bryozoa ออกเป็น 18 speciesเช่น Fistulipora timorensis Bassler, Fistulipora cf. labratula Bassler, Fistulipora cf. grandisvolongensis Nikiforova, Coscinotrypa orient<strong>al</strong>isSakagami (n. sp.), Dyscritella grossa Sakagami (n. sp.), Fenestella cf. subrudis Condra, Fenestellapulchradors<strong>al</strong>is Bassler, Polypora cf. repens Trizna,Polypora cf. tripliseriata Bassler และในปี 2513Sakagami (1970, 1973) ได้ศึกษา bryozoa ที่เกาะมุกและที่เขาเรือน จังหวัดราชบุรี พบ bryozoa พวกDyscritella sp. หลายชนิด เทียบเคียงได้กับทางด้านตะวันตกของออสเตรเลีย และให้อายุเป็น LateArkinskian อีกทั้งอายุของซากดึกดำบรรพ์พวก cor<strong>al</strong>และ brachiopod ที่พบในกลุ่มหินแก่งกระจานต่างบ่งอายุ Lower Permian ดังนั้นอายุของกลุ่มหินที่ให้เป็นคาร์บอนิเฟอรัส-เพอร์เมียน จึงมีความไม่แน่นอนว่าอายุส่วนล่างของกลุ่มหินจะแก่เพียงใดSektheera (1992) จากการตรวจพิสูจน์brachiopods ในหินทรายแป้งและหินโคลนจากเขาคลองแหง จังหวัดกระบี่ และแหลมทาบ จังหวัดนครศรีธรรมราช พบมีหลายชนิด เช่น Cleiothyridina,Hustedia, Spiriferella และ Tornquistia ได้ให้อายุตัวอย่างจากเขาคลองแหงเป็น Sakmarian Revised Lithostratigraphy of the Kaeng Krachan Group
การศึกษาข้อมูลและผลงานศึกษาวิจัยที่มีมาก่อน 15Brown <strong>et</strong> <strong>al</strong>. (1951) พบซากดึกดำบรรพ์พวกEophyton ที่บริเวณอ่าวทุ่งคา ให้อายุแคมเบรียน แต่ต่อมาเป็นที่ยอมรับว่าสิ่งที่เรียกว่า Eophyton นั้น เป็นเพียงรอยของสาหร่ายทำให้การวิเคราะห์ผิดพลาดYanagida (1970) ศึกษา brachiopods ที่เขาพริก จังหวัดราชบุรี พบว่ามีซากดึกดำบรรพ์มากมายหลายชนิด เช่น Brachiopods, bryozoans, cor<strong>al</strong>s,fusulininans, pelecypods, gastropods และได้ศึกษาbrachiopods พบว่ามีหลายชนิดที่สำคัญ เช่นSpiriferellina cristata (Schlotheim), Spiriferellinamultiplicata (Sowerby), Hemiptychina him<strong>al</strong>ayensis(Davidson), Notothyris nucleola (Kutorga) ซึ่งพบทั่วไปในยุโรบและเอเซีย และมีความสัมพันธ์เทียบเคียงได้กับ Productus limestone ของ S<strong>al</strong>t Range สรุปให้อายุเป็น Late ArtinskianMitchell <strong>et</strong> <strong>al</strong>. (1970) พบ Trilobite พวกCyrtosymbol sp. ที่บริเวณบ้านทุ่งคาโงก ตามทางหลวงสายตะกั่วป่า-พังงา บ่งอายุดีโวเนียนตอนปลายWaterhouse (1982) รายงานว่าหิน pebblymudstone ในส่วนบนของกลุ่มหินแก่งกระจาน ที่เกาะมุกเกาะพีพี (รูปที่ 2.5) พบ brachiopods หลายชนิดที่สะสมตัวในอุณหภูมิหนาวเย็นแบบ temperate แถบใกล้ขั้วโลกเช่น Arctitr<strong>et</strong>a percostata, Komukia solita,Cancrinelloides monticulus, Rhynchopora sp.,Arionthia sapa, Elasmata r<strong>et</strong>usus ต่อมา Shi andWaterhouse (1991), Shi and Archbold (1995) ศึกษาเพิ่มเติมได้ให้อายุเป็น Late Asselian or EarlySakmarian ส่วนชั้นหินที่วางตัวบน pebbly mudstone ที่เกาะยาวน้อย ในภาคใต้ ก็พบ Brachiopods (Waterhouse, 1981) ได้อายุ early Permian (Sakmarian) โดยพบ species ใหม่ด้วย เช่น Orthot<strong>et</strong>esperplexus, Tornquistia tricorporum, Costachon<strong>et</strong>inakrotowi, Chon<strong>et</strong>inella andamanensis, Chon<strong>et</strong>inellagranti เลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ และธนิศร์ วงศ์วานิช (2536) รายงานพบซากดึกดำบรรพ์ในหมวดหินขนอม (Kanom formation) ที่บริเวณบ้านคลองวัง อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพวก Styliolina sp.,Tentaculite sp., และ Pelecypod จำพวกPosidonomya sp., Nuculoidae sp., Trilobiteจำพวก Cyrtosymbolid sp. ให้อายุ Middle to LateDevonian สำหรับกลุ่มหินแก่งกระจานจะวางตัวอย่างมีรอยชั้นไม่ต่อเนื่องอยู่บนหมวดหินขนอม พร้อมรายงานการพบ brachiopod พวก Spirifer และ spiromartinia แต่รูปร่างไม่สมบูรณ์ ในหมวดหินสปิลเวย์ที่แหลมไม่ไผ่จังหวัดภูเก็ต (พิกัด 439871) คาดว่ามีอายุ EarlyCarboniferous- Early PermianLumjuan (1993) ศึกษาลำดับชั้นหินCarboniferous-Permian บริเวณแหลมทาบ และเขาสีอินทางตอนเหนือของจังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่าวางตัวอย่างต่อเนื่องอยู่บนหิน Devonian และ เปลี่ยนขึ้นไปหาหิน Permian ชั้นหินแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนล่างที่เขาสีอินเป็นการสลับกันของหิน ดินดานและหินทรายพบซากดึกดำบรรพ์อายุ Early Carboniferous หลายชนิด เช่น Posidonomya sp., Chon<strong>et</strong>es sp.,Bucanella sp., Pro<strong>et</strong>us sp., Pecten sp. และบนขึ้นไปมีชั้นของ gypsum และ anhydrite สลับอยู่ ชั้นหินในส่วนบนที่แหลมทาบวางตัวต่อเนื่องขึ้นมาประกอบด้วยหินโคลนปนกรวด (pebbly mudstone) (ซึ่งเลิศสินรักษาสกุลวงศ์ และธนิศร์ วงศ์วานิช (2536) บอกว่าไม่ต่อเนื่อง และจากการตรวจสอบของรายงานฉบับนี้พบว่าทั้ง 2 บริเวณอยู่ห่างกันหลายกิโลเมตร และไม่พบความต่อเนื่องของลำดับชั้นหินดังกล่าว) และมีชั้นของหินทรายและหินดินดานแทรกสลับ พบซากดึกดำบรรพ์ อายุ LateCarboniferous to Early Permian เช่น Linoproductussp., Ruggiscostella sp., Neochon<strong>et</strong>es sp.,Kitakamithyris sp., Rhynchonellacean sp.,S<strong>et</strong>igenites sp. ลำดับชั้นหินส่วนบนนี้เทียบเคียงได้กับกลุ่มหินแก่งกระจาน ที่ภูเก็ต ลำดับชั้นหินของกลุ่มหินแก่งกระจาน: ปรับปรุงใหม่
- Page 2 and 3: รายงานวิชาก
- Page 4 and 5: คำนำงานจำแน
- Page 6 and 7: RevisedLithostratigraphy of the Kae
- Page 8 and 9: ฉหน้าบทที่ 4
- Page 10 and 11: ซสารบัญรูป (Lis
- Page 12 and 13: ญรูปที่ หน้า
- Page 14 and 15: ฏสารบัญตารา
- Page 17 and 18: บทที่1บทนำ แล
- Page 19 and 20: บทนำ และข้อม
- Page 21 and 22: บทที่ 2การศึก
- Page 23 and 24: การศึกษาข้อ
- Page 25 and 26: การศึกษาข้อ
- Page 27 and 28: การศึกษาข้อ
- Page 29: การศึกษาข้อ
- Page 33 and 34: การศึกษาข้อ
- Page 35 and 36: การศึกษาข้อ
- Page 37 and 38: การศึกษาข้อ
- Page 39 and 40: การศึกษาข้อ
- Page 41: การศึกษาข้อ
- Page 44 and 45: 28บทที่ 3รอยแต
- Page 46 and 47: 30บทที่ 33.2 การใ
- Page 48 and 49: 32บทที่ 3รายงา
- Page 51 and 52: บทที่4ลำดับช
- Page 53 and 54: 40ลำดับชั้นหิ
- Page 55 and 56: ลำดับชั้นหิ
- Page 57 and 58: ลำดับชั้นหิ
- Page 59 and 60: ลำดับชั้นหิ
- Page 61 and 62: ลำดับชั้นหิ
- Page 63 and 64: ลำดับชั้นหิ
- Page 65 and 66: ลำดับชั้นหิ
- Page 67 and 68: ลำดับชั้นหิ
- Page 69 and 70: ลำดับชั้นหิ
- Page 71 and 72: ลำดับชั้นหิ
- Page 73 and 74: ลำดับชั้นหิ
- Page 75 and 76: ลำดับชั้นหิ
- Page 77 and 78: ลำดับชั้นหิ
- Page 79 and 80: ลำดับชั้นหิ
- Page 81 and 82:
ลำดับชั้นหิ
- Page 83 and 84:
ลำดับชั้นหิ
- Page 85 and 86:
ลำดับชั้นหิ
- Page 87 and 88:
ลำดับชั้นหิ
- Page 89 and 90:
ลำดับชั้นหิ
- Page 91 and 92:
ลำดับชั้นหิ
- Page 93 and 94:
ลำดับชั้นหิ
- Page 95 and 96:
ลำดับชั้นหิ
- Page 97 and 98:
ลำดับชั้นหิ
- Page 99 and 100:
ลำดับชั้นหิ
- Page 101 and 102:
ลำดับชั้นหิ
- Page 103 and 104:
บทที่5การวิเ
- Page 105 and 106:
การวิเคราะห
- Page 107 and 108:
การวิเคราะห
- Page 109 and 110:
การวิเคราะห
- Page 111 and 112:
การวิเคราะห
- Page 113 and 114:
การวิเคราะห
- Page 115 and 116:
การวิเคราะห
- Page 117 and 118:
การวิเคราะห
- Page 119 and 120:
การวิเคราะห
- Page 121 and 122:
การวิเคราะห
- Page 123 and 124:
การวิเคราะห
- Page 125 and 126:
การวิเคราะห
- Page 127 and 128:
การวิเคราะห
- Page 129 and 130:
การวิเคราะห
- Page 131 and 132:
การวิเคราะห
- Page 133 and 134:
การวิเคราะห
- Page 135 and 136:
การวิเคราะห
- Page 137 and 138:
การวิเคราะห
- Page 139 and 140:
การวิเคราะห
- Page 141 and 142:
การวิเคราะห
- Page 143 and 144:
การวิเคราะห
- Page 145 and 146:
การวิเคราะห
- Page 147 and 148:
การวิเคราะห
- Page 149:
การวิเคราะห
- Page 152 and 153:
136ลำดับชั้นห
- Page 154 and 155:
138บทที่ 6กขคงจ
- Page 156 and 157:
140บทที่ 6ที่ Dadon
- Page 158 and 159:
142บทที่ 62. กลุ่
- Page 160 and 161:
144บทที่ 6ในส่ว
- Page 162 and 163:
146บทที่ 6การเป
- Page 164 and 165:
148บทที่ 6ตาราง
- Page 166 and 167:
150 153บทที่ 6ตาร
- Page 168 and 169:
152บทที่ 66.2 สภา
- Page 170 and 171:
154บทที่ 6รูปที
- Page 172 and 173:
156บทที่ 66.3 สรุ
- Page 174 and 175:
158บทที่ 6กับแผ
- Page 177 and 178:
บทที่7สรุป แล
- Page 179 and 180:
เอกสารอ้างอ
- Page 181 and 182:
เอกสารอ้างอ
- Page 183 and 184:
เอกสารอ้างอ
- Page 185 and 186:
เอกสารอ้างอ
- Page 187 and 188:
เอกสารอ้างอ
- Page 189:
Êӹѡ¸Ã³ÕÇÔ·ÂÒ ¡ÃÁ