ASA Journal 15/2023
Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
66<br />
theme / review<br />
นอกจากอาคารสำานักงานยุคใหม่จะมีแนวคิดที่เป็น<br />
มิตรต่อวิถีการทำางานของเหล่ามนุษย์เงินเดือนแล้ว<br />
ในยุคปัจจุบันอาคารเหล่านี้ยังหันมาใส่ใจและเลือก<br />
ใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมธรรมชาติ จนเกิด<br />
เป็นอาคารประหยัดพลังงานที่ดีต่อทั้งมนุษย์และ<br />
สิ่งแวดล้อม ซึ่งหนึ่งในอาคารที่ว่านี้ คืออาคาร<br />
สำานักงานแห่งใหม่ของ OSD Company Limited<br />
บริษัทด้านเทคโนโลยีการสื่อสารที่มีอายุกว่า 20 ปี<br />
ผลงานการออกแบบจากทีมสถาปนิก AMA Design<br />
Studio และภูมิสถาปนิกจาก URBANIS<br />
เดิมทีบริษัท OSD Company Limited เคยตั้งอยู่<br />
ในอาคารทาวน์โฮมหลายหลังที่เกิดจากการขยับ<br />
ขยายไปตามช่วงเวลา จนกระทั่งบริษัทเริ่มเติบโต<br />
และถึงเวลามองหาสถานที่ใหม่ที่เพียงพอต่อความ<br />
ต้องการของพนักงาน จึงนำามาซึ่งโครงการออกแบบ<br />
สำานักงานแห่งใหม่บนที่ดินในซอยรามอินทรา 20<br />
โจทย์ของการออกแบบเริ่มต้นจากสองเจ้าของผู้-<br />
บริหารที่มาพร้อมความต้องการให้อาคารแห่งใหม่<br />
สะท้อนภาพลักษณ์องค์กร สามารถรองรับลูกค้า<br />
จัดกิจกรรมประจำาปี และเปิดรับกลุ่มนักศึกษาจาก<br />
มหาวิทยาลัยที่จะมาเข้าร่วมกิจกรรมสัมมนาเชิง<br />
ปฏิบัติการ และที่สำาคัญคือพนักงานต้องอยู่สบาย<br />
ท่ามกลางพื้นที่ธรรมชาติ ซึ่งเป็นความชอบส่วนตัว<br />
ของทางเจ้าของ ช่วยสร้างพื้นที่คลายเครียดที่ไม่ใช่<br />
เพียงแค่นั่งโต๊ะทำ างาน แต่ยังมีพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ<br />
เพื่อกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ได้มากขึ้น<br />
“ด้วยความที่เจ้าของไม่ได้ต้องการพื้นที่สีเขียวที่แค่<br />
มองแล้วสวย แต่เขาต้องการพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อ<br />
การพักผ่อนของพนักงาน ที่ทั้งสามารถมองเห็น<br />
และสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน ในไอเดียเริ่มต้น<br />
เราเลยมองว่า เราจะแบ่งพื้นที่สีเขียวนี้ กระจาย<br />
ออกและแทรกไปในแต่ละชั้น ด้วยการเรียงพื้นที่<br />
ใช้สอยทั้งหมดไว้ตรงกลางของอาคาร ก่อนจะห่อ<br />
หุ้มด้วยพื้นที่สีเขียว รวมถึงจะมีการคว้านพื้นที่<br />
ตรงกลางบางส่วน เพื่อแทรกพื้นที่สีเขียวลงไปอีก<br />
ชั้น ซึ่งเรามองว่าไอเดียนี้สามารถตอบโจทย์ความ<br />
ต้องการได้ค่อนข้างครบ ในขณะที่ยังใช้พื้นที่อาคาร<br />
ได้อย่างคุ้มค่า”<br />
พื้นที่ใช้สอยแต่ละส่วนที่เกี่ยวเนื่องถูกออกแบบให้อยู่<br />
บริเวณใกล้กัน จัดเรียงภายในอาคาร 4 ชั้นรวมถึง<br />
ดาดฟ้า โดยทีมสถาปนิกออกแบบชั้น 1 ให้เปิดโล่ง<br />
และยกส่วนของพื้นที่สำานักงานไปที่ชั้นบน ทำาให้<br />
ชั้น 1 กลายเป็นพื้นที่ใช้สอยที่ค่อนข้างสาธารณะ<br />
เพื่อใช้ในการต้อนรับลูกค้า และมีลักษณะคล้าย<br />
ใต้ถุนที่สามารถแทรกพื้นที่สีเขียวได้อย่างเต็มที่<br />
เปิดให้ลมธรรมชาติไหลเวียนได้เกือบตลอดเวลา<br />
ซึ่งห้องประชุมทั้ง 3 ห้องในโซนด้านขวาของชั้น<br />
ยังกระจายตัวเสมือนลอยอยู่บนบ่อน้ำ าท่ามกลาง<br />
ภูมิทัศน์ ที่นอกจากจะช่วยสร้างบรรยากาศในการ<br />
ทำางานแล้ว ยังกลายเป็นภาพประทับใจในการ<br />
ต้อนรับแขกผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี<br />
ในส่วนของชั้น 2 เป็นพื้นที่สำ านักงาน แบ่งเป็น<br />
แผนกต่าง ๆ ตั้งแต่ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ ฝ่ายธุรการ<br />
ฝ่ายขาย โดยห้องทำางานของทุกฝ่ายจะถูกกั้นด้วย<br />
กระจกเพื่อเปิดมุมมองให้สามารถมองเห็นพื้นที่<br />
สีเขียวเป็นจุดพักสายตา และในขณะเดียวกันก็ยัง<br />
สามารถมองเห็นการทำางานของฝ่ายอื่น ๆ ได้ด้วย<br />
เช่นกัน ส่วนบริเวณปีกขวาของชั้นเป็นโซนห้อง<br />
ทำางานของสองผู้บริหารรวมถึงห้องรับรองแขก<br />
ซึ่งเป็นทิศทางที่สามารถมองเห็นวิวยอดไม้สีเขียว<br />
จากบริบทรอบด้านได้สวยงามที่สุด<br />
ชั้น 3 เป็นโซนระบบปฏิบัติการช่างที่รวมพื้นที่<br />
ทำางานของฝ่ายวิจัยและพัฒนา ห้องเซิร์ฟเวอร์<br />
ห้องมอนิเตอร์ และห้องทดสอบอุปกรณ์ ที่สามารถ<br />
เปิดให้นักศึกษาเข้ามาเรียนรู้ผ่านกิจกรรมสัมมนา<br />
เชิงปฏิบัติการได้ ในขณะที่ชั้น 4 เป็นห้องประชุม<br />
ขนาดใหญ่สำาหรับจัดเลี้ยง ห้องออกกำ าลังกาย<br />
สำาหรับพนักงาน และส่วนสำานักงานฝ่ายบัญชีที่<br />
แยกตัวมาอยู่ที่ชั้นนี้ เนื่องจากรูปแบบการทำ างาน<br />
ไม่ต้องข้องเกี่ยวกับฝ่ายอื่น ๆ และต้องการความ<br />
เป็นส่วนตัว ต่อเนื่องจากบริเวณชั้น 4 มีทางเดิน<br />
เชื่อมสู่สวนดาดฟ้าที่สามารถใช้งานเป็นพื้นที่<br />
จัดเลี้ยงกลางแจ้ง หรือบางเวลาก็กลายเป็นพื้นที่<br />
พักผ่อนหย่อนใจที่พนักงานสามารถมารับลม ชม<br />
ธรรมชาติเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศได้บ้างในวันทำ างาน<br />
ความพิเศษ คือที่บริเวณชั้น 2 ชั้น 3 และชั้น 4 นี้<br />
ถูกออกแบบโดยแทรกพื้นที่สีเขียวเข้าไปโดยรอบ<br />
ของอาคาร ส่วนบริเวณใจกลางเป็นทางเดินขนาด<br />
ใหญ่ทำาหน้าที่แจกจ่ายไปยังพื้นที่ใช้สอยส่วนต่าง ๆ<br />
ซึ่งบริเวณทางเดินนี้เองที่ภูมิสถาปนิกมีการออกแบบ<br />
พื้นที่บางส่วนให้กลายเป็นพื้นที่ส่วนกลางกึ่งกลางแจ้ง<br />
ที่พนักงานสามารถมานั่งพักผ่อน นั่งคุย หรือนำ า<br />
แล็ปท็อปมานั่งทำางานเปลี่ยนบรรยากาศได้ตาม<br />
สะดวก นอกจากนี้พื้นบางส่วนของทางเดินยัง<br />
ออกแบบเจาะช่องเปิด เพื่อเชื่อมอาคารหลายชั้นถึง<br />
กันในแนวตั้ง ทำ าให้ในทุก ๆ ชั้น เราสามารถมองเห็น<br />
กิจกรรมที่เกิดขึ้นบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งนอกจาก<br />
จะทำาให้อาคารโปร่ง โล่ง วิธีนี้ยังช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์<br />
ให้กับพนักงานระหว่างแผนกได้มากขึ้นอีกด้วย<br />
ถึงแม้ว่าอาคารหลังนี้จะมีการสอดแทรกธรรมชาติ<br />
ไว้มากมายเพื่อให้เกิดภาวะน่าสบายในการใช้งาน<br />
เพื่อป้องกันความร้อนอีกหนึ่งชั้น สถาปนิกได้<br />
ออกแบบให้มีผนังตะแกรงเหล็กเจาะรู (Perforated<br />
Aluminium Sheet) เป็นเกราะกำาบังชั้นนอกสุด<br />
ของอาคาร โดยทำาหน้าที่ป้องกันแสงแดด ความ<br />
ร้อน ป้องกันฝน และยังช่วยบดบังมุมมอง ซึ่งเส้น<br />
สายที่ใช้ยังได้แรงบันดาลใจมาจากแผงวงจรไฟฟ้า<br />
ที่ต่อเนื่องไปไม่สิ้นสุด สะท้อนภาพลักษณ์องค์กร<br />
ที่เกี่ยวข้องกับด้านเทคโนโลยี โดยมีทั้งส่วนที่ปิด<br />
ทึบ เปิดโล่ง และกึ่งเปิด แต่ละรูปแบบอ้างอิงตาม<br />
พื้นที่ใช้สอยที่ซ่อนอยู่ภายใน อย่างเช่น ผนังกรอบ<br />
อาคารเปิดให้เห็นส่วนกลางของสำานักงาน หรือ<br />
ห้องออกกำาลังกาย ในขณะที่พื้นที่ที่ต้องการความ<br />
เป็นส่วนตัว อย่างห้องประชุม หรือห้องผู้บริหาร<br />
ผนังอาคารจะถูกออกแบบให้ปิด และมีช่องเล็ก ๆ<br />
ทำาหน้าที่กรองแสง ระบายอากาศ และบดบังสายตา<br />
จากภายนอก<br />
“อาคารนี้ไม่ได้กันฝน 100% แต่ส่วนที่เป็น<br />
สำานักงานต่าง ๆ แน่นอนว่าสามารถกันฝนได้เต็ม<br />
รูปแบบ ซึ่งส่วนที่เรายอมให้เปียกได้ คือพื้นที่ที่<br />
เวลาฝนตกเราไม่ได้ใช้มัน เช่น พื้นที่ส่วนกลางที่<br />
พนักงานออกมานั่งพักผ่อน ถ้ามองผิวเผินอาจจะ<br />
เห็นว่าอาคารนี้ค่อนข้างเปิด แต่จริง ๆ เราพยายาม<br />
ออกแบบให้ช่องเปิดขนาดใหญ่สลับกัน เราไม่ได้<br />
เปิดหมดทุกด้าน ถ้าเปิดกว้างที่ด้านหนึ่ง อีกด้าน<br />
จะผสมเป็นพื้นที่ปิดเพื่อช่วยลดแรงลม และป้องกัน<br />
ฝนสาด ซึ่งเราก็ยังมีการวางระบบระบายน้ำ าซ่อน<br />
อยู่โดยรอบของอาคารด้วย”<br />
นอกจากนั้นทีมภูมิสถาปนิกจาก URBANIS ยัง<br />
ออกแบบสวนแนวตั้ง เพื่อทำาหน้าที่ปกป้องพื้นที่<br />
ทำางานภายในจากแดด ลม ฝน และฝุ่น เราจึงได้<br />
เห็นพืชพรรณนานาชนิดร้อยเรียงในระดับต่าง ๆ<br />
ตั้งแต่พื้นที่ว่างระหว่างผนังอาคารโปร่งภายนอก<br />
และห้องกระจกภายใน โถงที่ว่างส่วนกลาง รวม<br />
ไปถึงสวนหลังคา เปรียบเสมือนการดึงเอาป่า<br />
ธรรมชาติเข้ามาสร้างบรรยากาศภายในอาคาร<br />
จากแนวคิดทั้งหมด บทสรุปของอาคารแห่งนี้จึง<br />
ไม่ใช่แค่สำานักงานที่เป็นมิตรกับเหล่าพนักงาน<br />
เพียงเท่านั้น แต่ยังใส่ใจ และสอดแทรกกระบวนการ<br />
คิดที่เป็นมิตรกับวัตถุดิบธรรมชาติ การันตีด้วย<br />
รางวัล ASEAN Energy Awards 2021 จากการเป็น<br />
อาคารอนุรักษ์พลังงานที่ออกแบบให้มีช่องเปิด<br />
ภายในอาคารทั้งทางแนวตั้ง และแนวนอน เพิ่มการ<br />
ไหลเวียนของธรรมชาติ ลดอุณหภูมิภายในอาคาร<br />
ผ่านต้นไม้ และบ่อน้ำา ทำาให้ผู้ใช้งานสามารถอยู่ใน<br />
ทุกพื้นที่ของอาคารได้ในสภาวะน่าสบาย โดยไม่<br />
จำาเป็นต้องเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา นี่จึง<br />
เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของอาคารสำานักงานยุคใหม่<br />
และอาคารประหยัดพลังงานที่น่าสนใจ