ASA Journal 16/2023
Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
54<br />
theme / review<br />
ภาษาทางสถาปัตยกรรมที่ให้ความสำาคัญต่อการ<br />
สร้างความเป็นส่วนตัว และปฏิสัมพันธ์ระหว่าง<br />
มนุษย์กับธรรมชาติ ได้สร้างข้อถกเถียงต่อจุด<br />
สมดุลในการดำารงอยู่ระหว่าง ‘ความเป็นส่วนตัว’<br />
กับ ‘ความเป็นสาธารณะ’ อันเป็นคุณลักษณะ<br />
สำาคัญที่เกี่ยวเนื่องกับการออกแบบสถาปัตยกรรม<br />
โดยเฉพาะเมื่อเราพิจารณาถึงสถาปัตยกรรม<br />
ประเภท ‘บ้านพักอาศัย’ ที่ความต้องการรูปแบบ<br />
เฉพาะในการจัดสรรความเป็นส่วนตัว ได้ทวี<br />
ความเข้มข้นมากขึ้น ดังตัวอย่างของ Azuma<br />
House โดยสถาปนิก Tadao Ando ถูกสร้างขึ้น<br />
ภายใต้บริบทของความเป็นชุมชน Sumiyoshi<br />
ใจกลางเมืองโอซาก้า ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1976 ความ<br />
ซับซ้อนของปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คนนี้ยังเพิ่มสูง<br />
ขึ้นอันเนื่องมาจากความรุดหน้าของพัฒนาการ<br />
ทางเทคโนโลยี ที่ถูกเรียกร้องผ่านการออกแบบ<br />
พื้นที่ใช้สอยที่ต้องการความยืดหยุ่น และตอบ<br />
สนองต่อการรักษาสมดุลระหว่างสภาวะสองสิ่ง<br />
ให้ดำารงอยู่ไปด้วยกัน<br />
โครงการ MC House เป็นโครงการบ้านพักอาศัย<br />
สองชั้น ตั้งอยู่ภายใต้บริบทชุมชนพักอาศัยเก่าแก่<br />
ที่รายล้อมไปด้วยบ้านพักอาศัยอายุหลายสิบปี<br />
ด้วยรูปแบบของขนาดผืนที่ดิน เป็นรูปทรงตัว L<br />
มีด้านที่ติดกับถนนซอยเล็กๆ เพียงเล็กน้อย<br />
สำาหรับเข้า-ออก และผืนที่ดินส่วนใหญ่ด้านใน<br />
ถูกประชิดไปด้วยบ้านพักอาศัยของเพื่อนบ้าน<br />
ส่งผลให้เป็นโจทย์ที่สำาคัญของการออกแบบ<br />
สถาปัตยกรรมของบ้านในเวลาต่อมา โดยทีม<br />
สถาปนิก นำาโดย ศาสตราจารย์ ดร.ต้นข้าว<br />
ปาณินท์ ได้ร่วมกันขบคิดกับเจ้าของบ้านใน<br />
การหาจุดสมดุลระหว่างการสร้างปฏิสัมพันธ์<br />
กับสภาพแวดล้อมภายนอกกับการสร้างความ<br />
เป็นส่วนตัวแก่พื้นที่พักอาศัยของบ้าน ผ่านการ<br />
ออกแบบสถาปัตยกรรมกับบริบทแวดล้อม ใน<br />
ขณะเดียวกัน ด้วยความต้องการหลักอีกประการ<br />
ของเจ้าของบ้านนั้นต้องการให้บ้านเป็นพื้นที่จัด<br />
แสดงผลงานศิลปะ เหตุด้วยเจ้าของบ้านมีความ<br />
ชื่นชอบ และครอบครองผลงานงานศิลปะไว้เป็น<br />
จำานวนมาก จึงนำามาซึ่งข้อสรุปที่จะสร้างโลก<br />
ส่วนตัวที่แวดล้อมไปด้วยผลงานศิลปะ อันเป็น<br />
ของสะสมของเจ้าของบ้าน แต่ในขณะเดียวกัน<br />
ก็ได้เปิดแง้มตนเอง ให้เกิดปฏิสัมพันธ์กับโลก<br />
ภายนอก ในบางพื้นที่ และบางองค์ประกอบที่<br />
เอื้อต่อการสร้างความสัมพันธ์กับตัวโครงการ<br />
เมื่อพิจารณาถึงผังพื้นของบ้าน จะพบว่าพื้นที่ดิน<br />
ฝั่งติดถนนที่อยู่ด้านปลายของตัว L ถูกออกแบบ<br />
ให้เป็นพื้นที่ของโรงจอดรถยนต์และพื้นที่ทางเข้า<br />
พื้นที่ผนังฝั่งขวาสถาปนิกเก็บรั้วเก่าที่เป็นรั้วเดิม<br />
ของเพื่อนบ้านเอาไว้ ในขณะนี้ฝั่งซ้ายออกแบบ<br />
ให้เป็นรั้วก่อใหม่ โดยบริเวณทางเข้าบ้านจะพบ<br />
กับต้นมะกอก และแนวผนังอิฐก่อสีเทารับแนว<br />
ปะทะทางสายตา มีประตูไม้บานใหญ่ทางฝั่งขวา<br />
เป็นพื้นที่ทางเข้าที่นำาเข้าไปสู่พื้นที่ Courtyard<br />
กลางของบ้าน พื้นที่ลานเปิดโล่งนี้ผู้ออกแบบ<br />
กำาหนดให้เป็นพื้นที่สำาคัญของบ้าน มีการปลูก<br />
แนวไม้ยืนต้นบริเวณใจกลางของบ้าน พื้นของ<br />
ลานบริเวณนี้ปูด้วยหินเกล็ด ในขณะที่ทางเดิน<br />
เชื่อมระหว่างพื้นที่ใช้สอยถูกยกพื้นขึ้นจากลาน<br />
หินเกล็ดประมาณ 10 เซนติเมตร ปูด้วยหิน<br />
แกรนิตสีเทาเข้มเชื่อมพื้นที่ว่างของโถง เข้ากับ<br />
ส่วนอยู่อาศัยที่สำาคัญทั้งหมดของบ้านเข้าด้วย<br />
กัน เพื่อสร้างให้พื้นที่ภายในกับพื้นที่ภายนอก<br />
มีสภาวะก้ำากึ่งระหว่าง Soft Scape กับ Hard<br />
Scape ปรากฏขึ้น โดยในส่วนของชั้น 1 พื้นที่<br />
ฝั่งทิศตะวันออกที่ขนานกับแนวด้านกว้างของ<br />
ที่ดิน ถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่จัดแสดงงานศิลปะ<br />
กึ่งหมุนเวียนที่เจ้าของบ้านสะสม ทำ าให้เกิดเป็น<br />
ทางเดินจัดแสดงงานศิลปะที่แทรกซึม และล้อม<br />
พื้นที่ว่างของโถงกลางไว้ทั้งหมด ส่วนพื้นที่ฝั่ง<br />
ทิศตะวันตกที่ขนานกับแนวกว้างของที่ดินถูก<br />
ออกแบบให้เป็นพื้นที่ของห้องนั่งเล่น และส่วน<br />
รับแขก รับประทานอาหาร โดยมีพื้นที่ฝั่งที่<br />
ประชิดกับแนวเขตที่ดินฝั่งทิศตะวันตกด้านหลัง<br />
เป็นพื้นที่ของส่วนบริการ เช่น ห้องครัว ห้อง<br />
เก็บของ ห้องพักแม่บ้าน รวมถึงห้องน้ำ าของห้อง<br />
นั่งเล่นที่จัดวางไว้บริเวณแนวประชิดฝั่งทิศ<br />
เหนือของบ้าน<br />
ในส่วนของพื้นที่ฝั่งทิศใต้ของบ้าน เป็นส่วน<br />
เชื่อมต่อ ที่มีบันไดล้อมโถงขนาดเล็กขึ้นไปยัง<br />
ส่วนพื้นที่ชั้นสอง ซึ่งเป็นพื้นที่ของส่วนห้อง<br />
นอนและห้องแต่งตัว พื้นที่ส่วนนี้ถูกออกแบบ<br />
ให้สามารถมองลงมายังพื้นที่ Courtyard และ<br />
ส่วนจัดแสดงศิลปะชั้นล่างได้ทั้งหมด เพื่อสร้าง<br />
บรรยากาศของการอยู่อาศัยท่ามกลางการ<br />
ซึมซับบรรยากาศของการเสพผลงานศิลปะ ใน<br />
ขณะเดียวกันที่ส่วนของทางเดินฝั่งทิศตะวันออก<br />
ของพื้นที่ชั้น 2 ซึ่งเปรียบได้กับ Façade ของ<br />
อาคารได้ถูกออกแบบให้ระนาบของส่วนนี้เป็น<br />
แนวของผนังอิฐเอียงทำามุมบดบังสายตาต่อแนว<br />
ปะทะที่ด้านหน้าของบ้าน เพื่อสร้างคุณลักษณะ<br />
ของการสร้างสภาวะกึ่งความเป็นส่วนตัว ที่<br />
สถาปนิกกล่าวไว้ว่า เปรียบได้ดั่ง ‘บ้านไม่มีหน้า’<br />
ผืนระนาบเอียงดังกล่าวเป็นหนึ่งในไวยากรณ์ทาง<br />
สถาปัตยกรรมที่สถาปนิกผู้ออกแบบเลือกใช้ ใน<br />
การสร้างระดับของความเป็นส่วนตัว (Level of<br />
Privacy) ที่แตกต่างกัน<br />
โครงการนี้ได้ถูกกำาหนดให้มีรูปแบบของการก่อ<br />
อิฐที่แตกต่างกัน 3-4 วิธีการ เช่น พื้นที่ชั้นล่าง<br />
ส่วนห้องนั่งเล่น และพื้นที่ติดสวนมีรูปแบบการ<br />
ก่ออิฐแบบครึ่งแผ่น ในขณะที่ผนังก่ออิฐของชั้น<br />
บนฝั่งที่ประชิดแนวที่ดินทิศใต้ ถูกออกแบบให้<br />
เป็นผนังก่ออิฐแบบ Flemish เว้นอิฐหนึ่งจังหวะ<br />
สร้างช่องเปิด เพื่อให้แนวระนาบผนังนี้ที่ทำ าหน้าที่<br />
คล้ายระแนงกันแดด แนวผนังทั้งสองฝั่งนี้มี<br />
คุณสมบัติสร้างสภาวะกึ่งส่วนตัว และช่วยระบาย<br />
ความร้อนและกันแดดไปได้ในตัว ความแตกต่าง<br />
ของรูปแบบการก่ออิฐส่งผลให้บ้านมีภาษาของ<br />
การสร้างความเป็นส่วนตัวที่มีความหลากหลาย<br />
ซึ่งสถาปนิกจำาเป็นต้องใช้การทดลองทั้งเทคนิค<br />
การก่อ ที่ใช้การวางเหล็กเป็นโครงสร้างภายใน<br />
แล้วก่ออิฐตามโครงสร้างของเหล็กเส้นที่วางเอา<br />
ไว้ รวมไปถึงการเลือกใช้อิฐ สถาปนิกได้เลือก<br />
ใช้อิฐ อปก (APK) อิฐมอญปั้นมือ สลับกับอิฐ<br />
แบบอุตสาหกรรม เพื่อสร้างความสมดุลระหว่าง<br />
ความเป็นงานกึ่งท้องถิ่น และความเป็นงานแบบ<br />
อุตสาหกรรม เช่นเดียวกับการเลือกใช้สีเทาใน<br />
หลายเฉด เป็นไปเพื่อการคำานึงถึงความเข้ากัน<br />
ได้กับงานศิลปะ ซึ่งสีเทาเป็นค่ากลางที่ถูกใช้<br />
ในการเป็นพื้นหลังให้กับงานศิลปะในรูปแบบ<br />
ต่าง ๆ ได้ดีที่สุด วัสดุแทบทั้งหมดของโครงการ<br />
ไม่ว่าจะเป็นงานก่อ ส่วนพื้น ผนัง สถาปนิกจึง<br />
เลือกกำาหนดสีเทาเป็นพื้นในงานออกแบบสถา-<br />
ปัตยกรรม ในส่วนรายละเอียดอื่นของโครงการ<br />
เช่น ส่วนของงานระแนงไม้ที่บริเวณชั้น 2 ได้มี<br />
การติดตั้งระแนงไม้ เพื่อลดความร้อนของแดด<br />
ในช่วงบ่ายพร้อมกับสร้างให้เกิดระนาบของเงา<br />
ทาบทับพื้นที่ส่วนภูมิทัศน์ของโถงกลาง<br />
โครงการ House MC ได้สร้างบทสนทนาให้<br />
เกิดขึ้นต่อการสร้างนิยามความสัมพันธ์ระหว่าง<br />
สภาวะความเป็นส่วนตัวกับปฏิสัมพันธ์กับสภาพ<br />
แวดล้อมภายนอกในบ้านพักอาศัย ที่มิติของ<br />
ความเป็นส่วนตัวให้คุณค่าผ่านคุณลักษณะเชิง<br />
พื้นที่ ท่ามกลางความสงบเงียบของภาษาทาง<br />
สถาปัตยกรรม สกัดออกมาเป็นสุนทรียศาสตร์<br />
ของความสงบเงียบ ดังคำากล่าวของทาดาโอะ<br />
อันโดะ ที่ว่า “ผมไม่คิดว่าสถาปัตยกรรมต้อง<br />
ส่งเสียงดังเกินไป สถาปัตยกรรมควรคงความ<br />
เงียบและปล่อยให้ธรรมชาติเข้ามาในรูปแบบของ<br />
สายลมและแสงแดด”