cache
cache
cache
You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
85<br />
เพิ่มขึ้นหรือเยื่อหุมมีสภาพเปนของไหลเพิ่มขึ้น (Porta et al., 1999; Lee et al., 2005) ดังนั้นขอมูล<br />
การเปลี่ยนแปลงชนิดหรือปริมาณกรดไขมันอิ่มตัวและไมอิ่มตัว อาจชวยอธิบายบทบาทของ LOX<br />
ตอการเกิด CI ของใบพืชสกุลกระเพราไดชัดเจนยิ่งขึ้น แตอยางไรก็ตามมีรายงานวาอุณหภูมิต่ํายัง<br />
สามารถกระตุนการเพิ่มกิจกรรมของเอนไซมที่เกี่ยวของกับการยอยสลายเยื่อหุมเซลลชนิดอื่น ๆ<br />
ไดแก เอนไซม phospholipase D phospholipase C ATPase kinase desaturase lipid acyl<br />
hydrolase (LAH) และ galactolipase (Palta et al., 1993; Wang et al., 2006; Mao et al., 2007)<br />
เมื่อเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงชนิดและปริมาณของกรดไขมันในใบแมงลัก ซึ่งเปนพืช<br />
สกุลกะเพราที่มีความไวตออุณหภูมิต่ํามากที่สุด โดยมีกรดไขมันไมอิ่มตัวเปนองคประกอบ<br />
มากกวารอยละ 90 (ตารางที่ 2) ถูกจัดอยูในกลุมพืชที่มีความไวตออุณหภูมิต่ํามาก (Roughan,<br />
1995) แตพืชที่ไมไวตออุณหภูมิต่ําหรือทนทานตออุณหภูมิต่ํา มีกลไกการปรับตัวหรือเตรียมตัวรับ<br />
สภาพหนาวเย็น โดยมีการสรางเอนไซมที่เกี่ยวของกับการสังเคราะหกรดไขมันไมอิ่มตัว ทําใหมี<br />
สัดสวนของกรดไขมันไมอิ่มตัวตอกรดไขมันอิ่มตัวเพิ่มขึ้นในเยื่อหุมเซลลระหวางการเก็บรักษาที่<br />
อุณหภูมิต่ํา (Larsson and MØller, 1990; Wang et al., 2006) จากการเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลง<br />
อัตราสวนกรดไขมันไมอิ่มตัวตอกรดไขมันอิ่มตัวระหวางการเก็บรักษาของแมงลักใบออนและใบ<br />
แกที่ 4 o ซ พบวาหลังการเก็บรักษานาน 12 ชั่วโมง ใบออนมีปริมาณรวมของกรดไขมันไมอิ่มตัว<br />
เพิ่มขึ้นและมีปริมาณรวมกรดไขมันอิ่มตัวลดลง (ตารางที่ 2) จึงทําใหใบออนมีอัตราสวนกรด<br />
ไขมันไมอิ่มตัวตอกรดไขมันอิ่มตัวเพิ่มขึ้นแตกตางอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (ภาพที่ 15A) โดยที่ใบ<br />
ยังอยูในสภาพปกติ ขณะที่ใบแกมีอัตราสวนกรดไขมันไมอิ่มตัวตอกรดไขมันอิ่มตัวคงที่และมีการ<br />
พัฒนาอาการสะทานหนาวเกิดขึ้นแลว และเมื่อเปรียบเทียบกับใบแกเก็บรักษาที่ 12 o ซ พบวามีการ<br />
เปลี่ยนแปลงอัตราสวนกรดไขมันไมอิ่มตัวตอกรดไขมันอิ่มตัวลักษณะเดียวกันกับใบออน กลาวคือ<br />
มีอัตราสวนกรดไขมันไมอิ่มตัวตอกรดไขมันอิ่มตัวเพิ่มขึ้นหลังการเก็บรักษานาน 12 ชั่วโมง<br />
ปริมาณกรดไขมันไมอิ่มตัวที่เพิ่มขึ้นมีผลทําใหคุณสมบัติการเปนของไหลของเยื่อหุม (membrane<br />
fluidity) เพิ่มขึ้น ทําใหเยื่อหุมไมเปลี่ยนเปนลักษณะแข็งเมื่อไดรับอุณหภูมิต่ํา จึงสามารถรักษา<br />
คุณสมบัติในการควบคุมการผานเขาออกของอนุมูลและสารละลายตาง ๆ ทําใหคาการรั่วไหลของ<br />
ประจุของเนื้อเยื่อใบออนเพิ่มขึ้นชากวาเนื้อเยื่อใบแก (ภาพที่ 6) และชะลอการแสดงอาการสะทาน<br />
หนาวในแมงลักใบออน ซึ่งในขอสันนิษฐานของ Lyons (1973) ไดกลาวรายละเอียดไวแลว<br />
นอกจากนั้นผลการศึกษาในตนขาวโพด ตนหญาสนาม หรือรากของตนบวบ ในสายพันธุที่มีความ<br />
ไวตออุณหภูมิต่ํานอยกวามีปริมาณกรดไขมันไมอิ่มตัวบางชนิดเพิ่มขึ้นระหวางการเก็บรักษาที่<br />
อุณหภูมิต่ํา (Kaniuga et al., 1999; Cyril et al., 2002; Ko et al., 2006)