01.11.2014 Views

cache

cache

cache

SHOW MORE
SHOW LESS

Create successful ePaper yourself

Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.

ชนิดกรดไขมันไมอิ่มตัวในแมงลักใบออนที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นไดแก palmitoleic acid<br />

(C16:1) และ petroselinic acid (C18:1) และ linolenic acid (C18:3) สวนกรดไขมันอิ่มตัวที่มี<br />

ปริมาณลดลง ไดแก palmitic acid (C16:0) และ myristic acid (C14:0) โดยพบวา C14:0 มีคาเปน<br />

ศูนย หลังการเก็บรักษาที่ 4 o ซ นาน 12 ชั่วโมง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงลักษณะนี้มีผลอยางมากตอการ<br />

เปลี่ยนแปลงคุณสมบัติทาง biophysics ของเยื่อหุม เนื่องจากจุดหลอมเหลวของไขมันไมอิ่มตัว<br />

C18:2 ต่ํากวากรดไขมันอิ่มตัว C14:0 อยางมาก ดังนั้นจุดหลอมเหลวของไขมันในเยื่อหุมลดต่ําลง<br />

ทําใหอุณหภูมิที่มีการเปลี่ยนสถานะของไขมัน (phase transition) ลดต่ําลงดวย จึงทําใหเนื้อเยื่อพืชมี<br />

ความตานทานตอความเย็นไดมากขึ้น (Lyons and Asmundson, 1965; Palta et al., 1993) ในทาง<br />

ตรงขามหลังการเก็บรักษาแมงลักใบแกที่ 4 o ซ นาน 12 ชั่วโมง พบวากรดไขมันไมอิ่มตัว C16:1<br />

และ C18:1 มีปริมาณลดลง แตปริมาณของ C18:3 เพิ่มขึ้น (ตารางที่ 1) จึงทําใหปริมาณรวมกรด<br />

ไขมันไมอิ่มตัวไมเปลี่ยนแปลง นอกจากนั้นใบแกยังมีปริมาณกรดไขมันอิ่มตัวรวมคงที่ (ตารางที่ 2)<br />

ทําใหอัตราสวนกรดไขมันไมอิ่มตัวตอกรดไขมันอิ่มตัวในใบแกมีคานอยกวาใบออนอยางมี<br />

นัยสําคัญทางสถิติและอาจเปนสาเหตุสวนหนึ่งที่ทําใหใบแกมีความไวตอการเกิดอาการ CI เร็วกวา<br />

ใบออน<br />

ปริมาณหรือชนิดของไขมันไมอิ่มตัวที่มีการเปลี่ยนแปลงอาจมีบทบาทตอความไวตอการ<br />

เกิดอาการสะทานหนาวไดเชนกัน จากผลการวิเคราะหปริมาณกรดไขมันไมอิ่มตัวในแมงลักใบ<br />

ออนและใบแก พบวาใบออนมีปริมาณ linoleic acid (C18:2) สูงกวาในใบแกเกือบ 2 เทา ในทาง<br />

ตรงขามใบแกมีปริมาณ C18:3 และ C16:1 มากกวาในใบออน อยางมีนัยสําคัญทางสถิติ (ตารางที่<br />

1) ดังนั้นบทบาทของกรดไขมัน C18:2 นาจะเกี่ยวของกับการชะลอการเกิดอาการสะทานหนาว ซึ่ง<br />

จากการศึกษาของ Wilson and Crawford (1974a) ในตนกลาฝาย ถั่ว และแตง ซึ่งเปนพืชที่ไวตอ<br />

อุณหภูมิต่ํา พบวาการทํา hardening ที่ 12 o ซ นาน 4 วัน กอนยายตนกลาไปไวที่ 4 o ซ สามารถลด<br />

ความเสียหายจากการเกิดอาการสะทานหนาวในใบไดมากกวารอยละ 50 โดยพบวามีปริมาณของ<br />

กรดไขมันไมอิ่มตัว C18:2 ในใบพืชเพิ่มขึ้น แตไมมีการเปลี่ยนแปลงระดับของไขมันไมอิ่มตัว<br />

หรือปริมาณกรดไขมันรวมในใบพืชทดลอง สวนตนกลาที่ไมไดทํา hardening ภายหลังจากนําไป<br />

ไวที่ 4 o ซ มีปริมาณกรดไมอิ่มตัว C18:3 และน้ําหนักรวมของกรดไขมันลดลงอยางรวดเร็ว แตใน<br />

พืชที่ทนทานตออุณหภูมิต่ําไมมีการเปลี่ยนแปลงดังกลาว นอกจากนั้นยังพบความสัมพันธเชิงบวก<br />

ระหวางความแกทางสรีรวิทยากับความไวตออุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น ในใบตนกลาฝายและถั่ว โดยมี<br />

ระดับ (degree) ของกรดไขมันไมอิ่มตัว และน้ําหนักรวมของ phosphlipid ลดลง (Wilson and<br />

Crawford , 1974b) การศึกษาในใบพืชสกุล Solanum สายพันธุที่ทนทานตอความหนาวเย็น มีการ<br />

ปรับตัวโดยเกิด cold-acclimate เพิ่มขึ้นสัมพันธกับการเพิ่มขึ้นของ C18:2 โดยที่ลักษณะนี้มีการ<br />

86

Hooray! Your file is uploaded and ready to be published.

Saved successfully!

Ooh no, something went wrong!