ASA JOURNAL 14/2023
You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
อบอุ่น เป็นมิตรใกล้ชิดกับมนุษย์ มีความยืดหยุ่น<br />
มากกว่าวัสดุอุตสาหกรรม ทำาให้ไม้ได้รับความ<br />
นิยมในงานสถาปัตยกรรมอยู่เสมอ<br />
ในพื้นที่เขาใหญ่ อำาเภอปากช่อง จังหวัดนคร-<br />
ราชสีมา ปรากฏวิหารของศูนย์ปฏิบัติธรรมชื่อ<br />
ว่า “วิหารแก้ว” เป็นวิหารไม้ทรงสูง รูปทรง<br />
แลดูสมัยใหม่ เรียบง่าย ด้วยเส้นตั้งจากเสาที่<br />
คล้ายเสานางเรียงในสถาปัตยกรรมทางศาสนา<br />
ศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ออกแบบโดย บริษัท<br />
ดวงฤทธิ์ บุนนาค จำากัด แนวคิดการวางผังโดย<br />
ใช้ประโยชน์จากที่ตั้ง ที่เป็นเส้นบรรจบของ<br />
เชิงเขาสองลูก สถาปนิกเลือกวางวิหารโถงไว้<br />
ที่ตรงกลางปลายจบเขาทั้งสองลูก เกิดเส้น<br />
เสริมความแรงให้กับสถาปัตยกรรมที่มีแกน<br />
ชัดเจน แกนกลางทำาหน้าที่แบ่งกลุ่มอาคาร<br />
ออกเป็นซ้าย-ขวา กลุ่มอาคารบริการที่เป็น<br />
โรงอาหารแบบเปิดโล่ง และอาคารห้องสมุด<br />
ทั้งสองอาคารวางเกาะเส้นแกนหลัก ทำาให้<br />
การจัดระเบียบเป็นแบบพุ่งเข้าหาศูนย์กลาง<br />
ที่ลานทางขึ้นวิหารที่มีสระน้ำาตื้นเป็นภูมิทัศน์<br />
ส่วนเสริมให้รูปทรงมีขนาดส่วนที่ใหญ่ลดความ<br />
แข็งลงได้ด้วยการสะท้อนบนผิวน้ำาที่ทำาให้ดู<br />
เบาลอย ด้านข้างทางทิศตะวันออก ถูกวางไว้<br />
เป็นที่พักของผู้มาปฏิบัติธรรม ด้วยกลุ่มเรือนพัก<br />
จำานวน 10 หลัง ถูกวางรายรอบสระน้ำาที่ขุด<br />
เตรียมไว้เป็นพื้นที่หน่วงน้ำา และกักเก็บน้ำาไว้<br />
ใช้งาน<br />
การขึ้นรูปทรงวิหารโถง หรือที่เรียกได้ว่าวิหาร<br />
ที่เป็นแบบเปิดโล่ง มีผนังปกปิดจากภายนอก<br />
บางส่วน เริ่มจากการที่สถาปนิกศึกษารูปตัด<br />
ของสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นในภาคอีสาน และ<br />
ภาคเหนือ ในส่วนของภาคอีสานได้ศึกษาสัดส่วน<br />
รูปตัดจาก ‘สิม’ วัดปทุมคงคา หรือวัดนกออก<br />
ที่อำาเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ในคำา<br />
อีสานนั้น ‘สิม’ มาจากการกร่อนคำาว่า ‘สีมา’<br />
หมายถึงขอบเขตอันศักดิ์สิทธ์ ซึ่งในการกำ าหนด<br />
สีมาของวัดในภาคอีสาน อันที่มีมาจากภาษาลาว<br />
คืออุโบสถในภาคกลางนั่นเอง แต่สิมมีขนาด<br />
ที่เล็กกว่า ตามการใช้สอยที่อนุโลมให้สำาหรับ<br />
พื้นที่ห่างไกล ขาดแคลนทรัพยากร ไม่สามารถ<br />
สร้างอุโบสถได้ตามมาตรฐาน<br />
สิมวัดปทุมคงคาเป็นสถาปัตยกรรมที่มีส่วน<br />
ผสมของทั้งศิลปะแบบปลายสมัยอยุธยา<br />
AT THE HEART OF IT<br />
ต้นสมัยรัตนโกสินทร์ มากกว่าศิลปะแบบลาว<br />
ต่างภาคอีสานส่วนอื่นๆ เนื่องด้วยนครราชสีมา<br />
เป็นเมืองหน้าด่านของกรุงเทพ และลาว มา<br />
ตั้งแต่กรุงศรีอยุธยา ทำาให้สถาปัตยกรรมมี<br />
ความคล้ายคลึงกับทางภาคกลางมากกว่า<br />
แต่ย่อส่วนลง เมื่อพิจารณาลักษณะของสิม<br />
หลังนี้ เป็นแบบมีผนังโดยรอบ ไม่ใช่ชนิดสิ<br />
มโถง โครงสร้างเสาเป็นไม้แปดเหลี่ยม หุ้ม<br />
ด้วยผนังปูนที่ภายนอก ทำาให้ความเด่นชัดอยู่<br />
ที่ด้านสกัด ที่มีสัดส่วนหลังคาลาดชันสูง<br />
สำาหรับการศึกษาสถาปัตยกรรมในส่วนภาค-<br />
เหนือ สถาปนิกได้ศึกษาจากวิหารวัดไหล่<br />
หินหลวง จังหวัดลำาปาง วิหารนี้มีลักษณะเป็น<br />
วิหารโถง หรือผนังโล่ง โดยเมื่อมองไปยัง<br />
ด้านสกัดที่ทางเข้า จะเป็นเสาลอย ไม่มีผนัง<br />
โครงสร้างเสาด้านสกัดมี 4 ต้น ทำาให้การแบ่ง<br />
สัดส่วนพื้นที่ภายในเป็น 3 ส่วน มีเสาร่วมใน<br />
เป็นตัวขับเน้นที่ว่างปลายวิหารที่มีพระประธาน<br />
ตั้งอยู่ ลักษณะโครงสร้างเป็นไม้หลังคา มีความ<br />
ลาดชัน 45 องศา แม้ว่าจะเป็นวิหารโถงที่ไม่มี<br />
ผนังทึบรอบแบบสิมวัดปทุมคงคา แต่ปลาย<br />
วิหารช่วงที่เป็นที่ตั้งพระประธานเป็นผนังทึบ<br />
บางส่วน เพื่อควบคุมความสลัวให้กับบริเวณ<br />
ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของวิหาร ลักษณะโครงสร้าง<br />
วิหารวัดไหล่หินหลวงส่งอิทธิพลต่อระบบ<br />
โครงสร้างหลังคาวิหาร<br />
วิหารแก้ว ออกแบบโดยการวางให้ด้านสกัด<br />
หันไปแนวทิศตะวันออก-ตก ตำาแหน่งวาง<br />
พระประธานอยู่ทางด้านทิศตะวันตก หัน<br />
พระพักตร์พระพุทธรูป และวางทางเข้าไว้<br />
ทิศตะวันออก ตามคติพุทธตอนพระพุทธเจ้า<br />
ตรัสรู้ การเข้าถึงวิหารโถงจากลานด้านหน้า<br />
ต้องเดินผ่านสระน้ำาที่ออกแบบไว้ให้เต็มไป<br />
ด้วยบัว การรับรู้ที่ว่างภายในเป็นไปอย่าง<br />
คลุมเครือ แม้ว่าชื่ออาคารคือ วิหารแก้ว ที่<br />
สื่อถึงความโปรงใส แต่การวางโครงสร้างเสา<br />
ไม่ได้เป็นแบบตรงไปตรงมา มีการวางเสา<br />
สลับเหลื่อมกันไปมาของเสาแนวภายนอกสุด<br />
ส่วนแนวเสาภายในจะตั้งซ้อนอยู่ระหว่างแนว<br />
เสาภายนอก ผลจากการวางโครงสร้างเสา<br />
ระบบนี้ ก่อเกิดการรับรู้ที่คลุมเครือ ไม่ชัดเจน<br />
คาดเดาที่ว่างภายในได้ยาก<br />
117<br />
ก่อนจะเข้าไปยังภายในวิหาร จะพบกับปริมาตร<br />
ของวิหารที่มีขนาดส่วนสื่อถึงพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์<br />
เป็นภาพที่มีเสาไม้ขนาดใหญ่มีรูปแบบการเรียง<br />
ไม้ในแนวตั้งขับให้เส้นตั้งที่เสาชัดเจนยิ่งขึ้น<br />
องค์ประกอบของสถาปัตยกรรมดูเปลี่ยนไป<br />
จากรูปตัดที่สถาปนิกได้ศึกษาไว้ มีลักษณะ<br />
การจัดเรียงเป็นสำาเนียงใหม่ในไวยากรณ์เดิม<br />
ส่วนของแปลานได้ถูกขับให้เน้นชัดขึ้นกว่าสิม<br />
วัดปทุมคงคา เน้นทางเข้าชัดเจนขึ้น ส่งผลต่อ<br />
ภาพพระพุทธรูปปลายทาง เมื่อผ่านเข้าไปยัง<br />
ภายใน เสาจะช่วยพรางพื้นที่ภายในให้ติดต่อ<br />
กับภายนอกด้วยการวางชุดเสาภายนอกแบบ<br />
สลับ เมื่อพิจารณารูปตัดแต่ละช่วงเสา จะเป็น<br />
การพัฒนาจากสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นแบบเดิม<br />
ให้ตอบสนองกับแนวคิดร่วมสมัยมากขึ้น<br />
รายละเอียดของเสาไม้ โครงหลังคาไม้ ถูก<br />
ประกอบกันขึ้นจากโครงสร้างเหล็ก กรุชั้นใน<br />
ด้วยแผ่นซีเมนต์บอร์ด จากนั้นจึงกรุชั้นนอก<br />
สุดด้วยไม้สนนำาเข้าขนาด 1” x 6 “ รูปแบบ<br />
วางไม้กรุให้ขนานไปกับแนวตั้งของเสา ส่วน<br />
ของขื่อ อะเสเหล็กหุ้มด้วยไม้ในแนวนอน<br />
ล้อไปกับแนวการวางโครงสร้างหลังคา แม้ว่า<br />
จะเป็นวิหารโถงที่จะพบกับปัญหาฝนสาด<br />
ระบบระบายน้ำาที่พื้นได้เตรียมไว้ด้วยยกพื้น<br />
ปล่อยให้ด้านล่างเป็นพื้นยก ในการออกแบบ<br />
รายละเอียดงานไม้ สิ่งที่ต้องระวังอันดับต้นๆ<br />
คือการระวังเรื่องความชื้น ถ้าปล่อยให้ไม้มีจุด<br />
สะสมความชื้นได้ง่าย จะเป็นจุดที่เสื่อมโทรม<br />
ได้เร็ว ต้องป้องกันไม่ให้เจอดิน หรือน้ำ าโดยตรง<br />
ในส่วนที่จะชนกับน้ำา ดิน ได้มีการออกแบบ<br />
รายละเอียดให้เว้นรอยต่อไว้ ไม่ให้สะสม<br />
ความชื้นโดยตรง หรือจะเรียกได้ว่าให้ไม้ได้<br />
หายใจ<br />
“สำาหรับผม เรื่องของพุทธศาสนาเป็นเรื่องของ<br />
การปฏิบัติ เราทำาวิธีการสะท้อนของอาคารนี้<br />
ด้วยอะไรบ้างที่สะท้อนความเป็นพุทธ อะไร<br />
บ้างที่เป็นสาระจริงๆ เพียงแต่ผมไม่ได้ทำามัน<br />
ออกมาในเชิงสัญลักษณ์เท่านั้นเอง ผมว่าคำาว่า<br />
สมดุล ธรรมชาติเป็นหัวใจ มันมีไม้แล้วก็มีหิน<br />
มันมีเปิดแล้วก็มีปิด มีภายนอกแล้วก็มีภายใน<br />
อันนี้ก็เป็นวิธีคิดแบบที่ผมมอง” ดวงฤทธิ์<br />
บุนนาค สถาปนิก และกรรมการผู้จัดการได้<br />
เอ่ยถึงแนวคิดของงานออกแบบชิ้นนี้ไว้ในการ<br />
สรุปช่วงท้าย