ASA JOURNAL 14/2023
Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
134<br />
materials<br />
หดลีบลงตามลำาดับ จึงทำาให้เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงทางขนาดและ<br />
รูปทรงขึ้นนอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงของน้ำาหนัก กระบวนการ<br />
คายน้ำา/แลกเปลี่ยนน้ำาและความชื้นกับสภาพแวดล้อมของไม้ยังคง<br />
ดำาเนินต่อไปจนถึงจุดที่สมดุลกับ EMC-Equilibrium moisture content<br />
ค่าความชื้นสมดุลซึ่งแปรผันกับอุณหภูมิ T-Temperature และความชื้น<br />
สัมพัทธ์ในอากาศ RH-Relative humidity ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่<br />
ตลอดเวลาซึ่งหมายความว่าไม้จะมีการแลกเปลี่ยนความชื้นในเนื้อไม้<br />
MC-Moisture content แปรผันตาม EMC ค่าความชื้นสมดุลนี้ตลอด<br />
เวลา ซึ่งแม้ว่า EMC ค่าความชื้นสมดุลนี้จะเปลี่ยนแปลงแปรผันตาม<br />
อุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศบริเวณนั้นแล้วยังมีปัจจัยแวดล้อม<br />
ด้านสภาพแวดล้อมจำาเพาะร่วมซึ่งมีผลร่วมด้วยในการแลกเปลี่ยน<br />
ความชื้นของไม้กับสภาพแวดล้อม อาทิ ความเร็วลม แสงธรรมชาติ<br />
การทาสารเคลือบผิว ฯลฯ<br />
ปัญหาที่แท้จริงของน้ำาและความชื้นที่ส่งผลต่อวัสดุไม้ไม่ใช่การคายน้ำา<br />
หรือแลกเปลี่ยนความชื้นกับสภาพแวดล้อมหากกระบวนการนั้นอยู่ใน<br />
เงื่อนไขที่เหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น บริเวณหน้าตัดขวางของไม้ซึ่งเป็น<br />
ปลายเปิดของท่อลำาเลียงน้ำา/อาหารและช่องว่างระหว่างเซลล์จะคายน้ำา<br />
ได้ดีมากกว่าบริเวณผิว ดังนั้นไม้ขนาดหน้าตัดใหญ่และมีความยาวใน<br />
ระยะหนึ่ง เมื่อมีการคายน้ำาบริเวณหน้าตัดรวดเร็ว ทำาให้ค่าความชื้น<br />
บริเวณนั้นลดลง ขณะที่ส่วนอื่นมีค่าความชื้นสูงกว่ามาก การเปลี่ยนแปลง<br />
ทางขนาดของพื้นที่ซึ่งมีค่าความชื้นแตกต่างกันสูงที่ไม่สมดุลกันจึงทำา<br />
ให้เกิดการแตกร้าวที่ปลายไม้ End check ทั้งนี้หากทำาการทาสารเคลือบ<br />
ซึ่ง block การคายน้ำาหรือแลกเปลี่ยนความชื้นบริเวณปลายไม้โดย<br />
สมบูรณ์ ความชื้นในเนื้อไม้ก็จะถูกผลักดันออกทางผิวทำาให้เกิดการ<br />
แตกร้าวบริเวณผิว Surface check เกิดเป็นปัญหาใหม่ขึ้น เป็นต้น จึง<br />
เป็นที่เข้าใจได้ชัดเจนว่า การอบไม้เป็นหนึ่งในกรรมวิธีเตรียมวัสดุไม้<br />
ให้มีความชื้นลดลง(แห้ง) ภายใต้สภาวะควบคุมเพื่อแก้ป้องกันความ<br />
เสียหายจากกระบวนการคายน้ำา/แลกเปลี่ยนความชื้นตามธรรมชาติ<br />
ยังมีกรรมวิธีอื่นในการทำาให้ความชื้นในเนื้อไม้ลดลงภายใต้สภาวะ<br />
ควบคุมนอกเหนือจากการอบไม้ในตู้ไอร้อน 17 เช่น การผึ่งลมภายใต้<br />
ร่มเงา 18 การใช้กระแสลมจากเครื่องกลไหลผ่าน เป็นต้น ดังนั้นจึงคลี่คลาย<br />
ข้อสังเกตดังกล่าวได้ว่า “ไม้ควรมีความชื้นที่เหมาะสมจากการเตรียม<br />
ไม้ก่อนนำามาใช้งานไม่ว่าจะโดยกรรมวิธีใดก็ตามในกระบวนการนั้น”<br />
(กรรมวิธีการทำาให้ความชื้นในเนื้อไม้ลดลงนั้นจำาเป็นต้องพิจารณาปัจจัย<br />
พื้นฐานของวัสดุไม้ร่วมด้วยเสมอ อาทิ ขนาดหน้าตัดและความยาวไม้<br />
เพื่อป้องกันความเสียหายในระหว่างกระบวนการนั้น) เมื่อเข้าใจเช่นนี้<br />
ก็จะนำามาสู่ความเข้าใจในลำาดับต่อไปว่าเมื่อเตรียมไม้โดยลดค่าความชื้น<br />
ภายใต้สภาวะควบคุมได้จนใกล้เคียงค่าความชื้นสมดุล EMC ในสภาพ-<br />
แวดล้อมของสถานที่ทำางานต่างกันแล้วจึงปล่อยให้ไม้แลกเปลี่ยนความ<br />
ชื้นตามธรรมชาติในสภาพแวดล้อมนั้นๆ ในระยะเวลาหนึ่งก่อนนำามา<br />
ใช้งานก็จะเกิดปัญหาในการเปลี่ยนแปลงทางขนาดและรูปทรงได้มาก<br />
การไสปรับขนาด การติดตั้ง การตกแต่งผิว และการทำางานอื่นๆ ภาย<br />
หลังจากกระบวนการนี้ย่อมได้ประสิทธิภาพและคุณภาพของงานสูงขึ้น<br />
5<br />
Photo Reference<br />
5-6. Suntan Viengsima / Sansuda Jiamjit