buddhawaj01.pdf
Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
๒๘๔ ขุมทรัพยจากพระโอษฐ<br />
เปนสวน ๆ ๑ ; สิ่งที่เปนอกุศลลามกคืออภิชฌาและโทมนัส<br />
มักไหลไปตาม<br />
ภิกษุผูไมสํารวม<br />
ตา หู จมูก ลิ้น<br />
กาย ใจ เพราะการไมสํารวมอินทรียใดเปนเหตุ,<br />
เธอก็ปฏิบัติเพื่อปดกั้นอินทรียนั้นไว,<br />
เธอรักษา และถึงความสํารวม ตา หู<br />
จมูก ลิ้น<br />
กาย และใจ. ภิกษุ ท. ! ภิกษุอยางนี้ชื่อวา<br />
เปนผูคุมครองทวาร<br />
ในอินทรียทั้งหลาย.<br />
ภิกษุ ท. ! ภิกษุ เปนผูรูประมาณในโภชนะ<br />
เปนอยางไรเลา ?<br />
ภิกษุ ท. ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้<br />
พิจารณาโดยแยบคายแลวจึงฉันอาหาร, ไมฉัน<br />
เพื่อเลน<br />
ไมฉันเพื่อมัวเมา<br />
ไมฉันเพื่อประดับ<br />
ไมฉันเพื่อตกแตง,<br />
แตฉันเพียง<br />
เพื่อใหกายนี้ตั้งอยูได<br />
เพื่อใหชีวิตเปนไป<br />
เพื่อปองกันความลําบาก<br />
เพื่อ<br />
อนุเคราะหพรหมจรรย โดยกําหนดรูวา<br />
“เราจะกําจัดเวทนาเกา (คือหิว) เสียแลว<br />
ไมทําเวทนาใหม (คืออิ่มจนอึดอัด)<br />
ใหเกิดขึ้น,<br />
ความที่อายุดําเนินไปได<br />
ความ<br />
ไมมีโทษเพราะอาหาร และความอยูผาสุกสําราญจะมีแกเรา”<br />
ดังนี้.<br />
ภิกษุ ท. !<br />
ภิกษุอยางนี้<br />
ชื่อวา<br />
เปนผูรูประมาณในโภชนะ.<br />
ภิกษุ ท. ! ภิกษุ เปนผูตามประกอบในชาคริยธรรมอยูเนืองนิจ<br />
เปน<br />
อยางไรเลา ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้<br />
ยอมชําระจิตใหหมดจด<br />
สิ้นเชิงจากกิเลสที่กั้นจิต<br />
ดวยการเดินจงกรม ดวยการนั่ง<br />
ตลอดวันยังค่ําไปจน<br />
สิ้นยามแรกแหงราตรี,<br />
ครั้นยามกลางแหงราตรี<br />
ยอมสําเร็จการนอนอยาง<br />
ราชสีห (คือ) ตะแคงขางขวา เทาเหลื่อมเทา<br />
มีสติสัมปชัญญะในการลุกขึ้น,<br />
ครั้นยามสุดทายแหงราตรี<br />
กลับลุกขึ้นแลว<br />
ก็ชําระจิตใหหมดจดสิ้นเชิงจากกิเลส<br />
ที่กั้นจิต<br />
ดวยการเดินจงกรม และดวยการนั่งอีก.<br />
ภิกษุ ท. ! ภิกษุอยางนี้<br />
๑. คือการไมรวบถือเอาผัสสะทั้งหมดเปนตัวเราของเรา<br />
หรือไมแยกถือแตละสวนขององคประกอบผัสสะวา<br />
เปนตัวเรา ของเรา (สําหรับผูเดินมรรคในระดับผัสสะ),<br />
และการไมถือเอาเปนอารมณสําหรับยินดียินราย ทั้งโดย<br />
สวนรวมและสวนปลีกยอย ของอารมณนั้น<br />
ๆ (สําหรับผูเดินมรรคในระดับเวทนา).