You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
KMUTT Annual Research Abstracts 2005<br />
คํานึงถึงการใชประโยชนจากของเหลือใชในกระบวนการ<br />
ผลิตใหเกิดประโยชนสูงสุด กระบวนการแปรรูปน้ํามะกรูด<br />
อบแหงแชแข็งแบบครบวงจรที่ไดออกแบบขึ้นนี้ประกอบ<br />
ดวยการปอกผิวมะกรูดออกแลวนํามะกรูดปอกเปลือกมา<br />
ทําการผาคั้นไดน้ํามะกรูดเพื่อผลิตน้ํามะกรูดผงดวยวิธีอบ<br />
แหงแบบแชแข็งสําหรับใชในอุตสาหกรรมสปาและเครื่อง<br />
สําอาง สวนของเหลือในกระบวนการผลิตคือผิวเปลือก<br />
มะกรูด เนื้อมะกรูดและเมล็ดมะกรูด ซึ่งการใชประโยชน<br />
จากของเหลือในกระบวนการผลิตไดดําเนินการตอโดย<br />
กระบวนการยอยที่หนึ่ง เปนการสกัดน้ํามันหอมระเหย<br />
ดวยการนําผิวมะกรูดมาเขาเครื่องปนยอยเปนชิ้นเล็ก แลว<br />
จึงนํามาบีบน้ํามันจากเปลือก ซึ่งเอาไปดําเนินการสกัดน้ํา<br />
มันหอมระเหยตอโดยใชการกลั่นแบบไอน้ําและนําผิว<br />
มะกรูดที่เหลือไปอบแหงและนําไปใชในงานสปา เครื่อง<br />
สําอาง ในขณะที่สวนของเนื้อมะกรูดที่เหลือจากการบีบน้ํา<br />
จะถูกนํามาฝานเปนแวนหรือหั่นเปนชิ้นนําไปอบแหงเพื่อ<br />
ใชในงานสปา สวนของเมล็ดนํามาบดแลวตากแหง เพื่อใช<br />
เปนสารชีวภาพไลแมลงศัตรูพืชในขณะที่ของเหลือใชใน<br />
กระบวนการสกัดน้ํามันหอมระเหยนํามาใชในการทําน้ํา<br />
หมักชีวภาพไดตอไป กระบวนการแปรรูปน้ํามะกรูดอบ<br />
แหงแชแข็งแบบครบวงจรที่ออกแบบขึ้นนี้ สามารถใช<br />
ประโยชนจากของเหลือใชในกระบวนการไดทั้งหมด ซึ่ง<br />
จากการทดลองผลิตในหนวยบริการอุตสาหกรรม สวน<br />
อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกลาธนบุรี<br />
พบวา มะกรูด 1 ตัน ไดน้ํามะกรูด 80 กิโลกรัม ผิวมะกรูด<br />
300 กิโลกรัม เนื้อมะกรูด 604 กิโลกรัม และเมล็ด<br />
มะกรูด 16 กิโลกรัม ซึ่งทําใหไดผลผลิตเปนมะกรูดผง<br />
13.5 กิโลกรัม น้ํามันหอมระเหยมะกรูด 6 ลิตร ผิว<br />
เปลือกมะกรูดผง 160 กิโลกรัม เนื้อมะกรูดอบแหง 240<br />
กิโลกรัม เมล็ดมะกรูดบดยอย 12 กิโลกรัม ซึ่งขณะนี้ได<br />
ทําการศึกษาตอในดานการพัฒนาผลิตภัณฑเพื่อใช<br />
ประโยชนในรูปของสปาและเครื่องสําอางตอไป<br />
NC-359 การพัฒนาระบบบริหารจัดการครุภัณฑ:<br />
การจัดทําเครือขายครุภัณฑวิจัยพัฒนา<br />
สุชาดา ไชยสวัสดิ์, ผกาวัลย วิมุกตะลพ, ทศพล ตุมนิ่ม,<br />
จิรารัตน ถนอมนุม, ธีระศักดิ์ ลือชาพงศทิพย,<br />
วราภรณ เมธาวิริยะศิลป<br />
การประชุมวิชาการวิทยาศาสตรและเทคโนโลยีแหง<br />
ประเทศไทย ครั้งที่ 31, 18-20 ตุลาคม 2548,<br />
349<br />
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี, จ. นครราชสีมา, หนา 49<br />
ครุภัณฑวิจัยเปนทรัพยากรที่จําเปนอยางหนึ่งใน<br />
การดําเนินการตามภารกิจหลักของมหาวิทยาลัยซึ่งมีการ<br />
ลงทุนและคาใชจายในการบํารุงรักษาสูงเพื่อใหสามารถ<br />
รองรับการใชงานไดอยางมีประสิทธิภาพ มหาวิทยาลัยเทค<br />
โนโลยีพระจอมเกลาธนบุรีเปนมหาวิทยาลัยที่ดําเนินการ<br />
เรียนการสอนและการวิจัยดานวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี<br />
ซึ่งตองลงทุนครุภัณฑวิจัยและพัฒนาในมูลคาสูง มหา<br />
วิทยาลัยไดมีนโยบายดานการวางระบบบริหารจัดการให<br />
เกิดการใชงานครุภัณฑวิจัยที่คุมคาและมีประสิทธิภาพ<br />
โดยวัตถุประสงคที่ตองการใหเกิดการใชงานครุภัณฑวิจัยที่<br />
เต็มศักยภาพกอใหเกิดประโยชนสูงสุดเพื่อใหคุมกับการ<br />
ลงทุน คณะผูวิจัยจึงไดพัฒนาระบบบริหารจัดการครุภัณฑ<br />
ซึ่งเนนทําการจัดทําเครือขายครุภัณฑวิจัยพัฒนาขึ้นโดย<br />
อาศัยหลักการใชทรัพยากรรวมกันของหนวยงานภายใน<br />
มหาวิทยาลัยภายใตการคิดคาใชจายภายในที่เปนไปใน<br />
รูปแบบเดียวกัน ระบบที่พัฒนาขึ้นนี้ไดทดลองปฏิบัติใน<br />
หนวยงานตนแบบคือกลุมวิจัยพัฒนา R&D Cluster<br />
มจธ. ซึ่งประกอบดวยหนวยวิจัย 8 หนวยงานในอาคาร<br />
วิจัยพัฒนาและโรงงานตนแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี<br />
พระจอมเกลาธนบุรีบางขุนเทียนโดยขั้นตอนการดําเนิน<br />
งานประกอบดวยการสํารวจครุภัณฑวิจัยพัฒนาในหนวย<br />
งานวิจัยที่เขารวมเปนเครือขายนํารองและจัดกลุม ตาม<br />
กิจกรรมการสํารวจสถานภาพพรอมขอมูลทางเทคนิคและ<br />
ความสามารถในการทํางานของเครื่อง การจัดทําคูมือการ<br />
ใชงานและบันทึกการใชงาน การจัดทําโครงสรางการคิด<br />
ตนทุนและการคิดคาใชจายภายใน และการจัดทําคูมือการ<br />
ใชระบบและใหบริการจากผลการทดลองใชระบบในหนวย<br />
งานนํารองซึ่งมีนักวิจัยในหนวยงาน จํานวน 72 คน เปน<br />
เวลาหนึ่งปตั้งแตเดือนมกราคม 2547 ถึงเดือนธันวาคม<br />
2547 พบวามีการใชเครื่องมือวิจัยในหนวยงานตนแบบ<br />
คือกลุมวิจัยพัฒนา R&D Cluster มจธ. 3,858 ครั้ง<br />
อัตราการใชเครื่องมือวิจัยในแตละกลุมอยูในชวง 50-92<br />
% และ อัตราการใชเครื่องมือวิจัยเปน 53.6 ครั้งตอคน<br />
ตอป ไดมีการประเมินระบบบริหารจัดการครุภัณฑที่<br />
พัฒนาขึ้นพบวา การดําเนินการตามระบบใหสําเร็จตอง<br />
อาศัยความรวมมือจากทั้งผูบริหาร ตลอดจนนักศึกษาและ<br />
นักวิจัยผูใชงานและไดมีขอเสนอแนะใหเพิ่มการจัดระบบ<br />
การซอมบํารุงและซอมแซมครุภัณฑและใชฐานขอมูลเขา<br />
มาชวยในการบริหารจัดการครุภัณฑวิจัยและพัฒนา ขณะ<br />
National Conference