Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
KMUTT Annual Research Abstracts 2005<br />
ธีรวัฒน สินศิริ, ชัย จาตุรพิทักษกุล,<br />
ปริญญา จินดาประเสริฐ<br />
วารสารวิจัยและพัฒนา มจธ., ปที่ 28, ฉบับที่ 1,<br />
มกราคม-มีนาคม 2548, หนา 17-28<br />
บทความนี้นําเสนอผลกระทบของความ<br />
ละเอียดเถาถานหินตอกําลังอัด ปริมาตรโพรงทั้งหมด<br />
และขนาดโพรงในเพสตที่แข็งตัวแลว โดยนําเถาถานหิน<br />
จากโรงไฟฟาแมเมาะที่ไมไดแยกขนาดมีอนุภาคที่ d 50 เทา<br />
กับ 19.1 ไมครอน และเถาถานหินที่ผานการแยกขนาดมี<br />
อนุภาคที่ d 50 เทากับ 6.41 ไมครอน แทนที่ปูนซีเมนต<br />
ปอรตแลนดประเภทที่ 1 ในอัตราสวนรอยละ 0, 20 และ<br />
40 โดยน้ําหนักของวัสดุประสาน ควบคุมอัตราสวนน้ําตอ<br />
วัสดุประสานใหมีคาเทากับ 0.35<br />
ผลการทดสอบพบวา เพสตที่ผสมเถาถานหิน<br />
แยกขนาดใหกําลังอัดสูงกวาเพสตผสมเถาถานที่ไมไดแยก<br />
ขนาด การแทนที่และความละเอียดของเถาถานหินมีผล<br />
กระทบที่สําคัญตอปริมาตรโพรงทั้งหมดและขนาดโพรง<br />
คาปลลารีของเพสต โดยการแทนที่ปูนซีเมนตปอรตแลนด<br />
ประเภทที่ 1 ดวยเถาถานหินที่ไมไดแยกขนาดในอัตรา<br />
การแทนที่ที่เพิ่มขึ้นสงผลใหปริมาตรโพรงทั้งหมดของ<br />
เพสตเพิ่มขึ้นแตขนาดโพรงคาปลลารีลดลง ขณะที่การ<br />
แทนที่เถาถานหินที่คัดแยกในเพสต ทําใหปริมาตรโพรง<br />
ทั้งหมดและขนาดโพรงคาปลลารีของเพสตลดลงเมื่อ<br />
เทียบกับเพสตที่ผสมเถาถานหินที่หยาบกวา นอกจากนี้ยัง<br />
พบวาปริมาตรโพรงทั้งหมดและขนาดโพรงคาปลลารี<br />
ลดลง เมื่อแทนที่เถาถานหินที่ละเอียดลงในเพสตทุก<br />
ระดับของการแทนที่<br />
NJ-006 การศึกษาคาดัชนีกําลังของมอรตารที่เกิด<br />
จากปฏิกิริยาไฮเดรชัน การอัดตัวของอนุภาค และ<br />
ปฏิกิริยาปอซโซลานของเถาแกลบ-เปลือกไมและ<br />
เถาปาลมน้ํามัน<br />
จตุพล ตั้งปกาศิต, แสวง ทรงหมู, ชัย จาตุรพิทักษกุล,<br />
ไกรวุฒิ เกียรติโกมล<br />
วารสารวิจัยและพัฒนา มจธ., ปที่ 28, ฉบับที่ 4,<br />
ตุลาคม-ธันวาคม 2548, หนา 465-476<br />
งานวิจัยนี้เปนการศึกษาคาดัชนีกําลังของมอร<br />
ตารที่เกิดจากปฏิกิริยาไฮเดรชัน การอัดตัวของอนุภาค<br />
และปฏิกิริยาปอซโซลานของเถาแกลบ-เปลือกไม และเถา<br />
ปาลมน้ํามัน โดยทําการบดวัสดุปอซโซลานและทรายใหมี<br />
ขนาดใกลเคียงกันสามขนาด คือมีน้ําหนักที่คางบน<br />
ตะแกรงเบอร 325 เทากับรอยละ 5±2, 13.5±2 (ซึ่งเปน<br />
น้ําหนักของปูนซีเมนตปอรตแลนดที่ใชในการศึกษาคาง<br />
บนตะแกรงเบอร 325 เทากับรอยละ 13.5) และ 34±2<br />
ตามลําดับ และนําไปใชแทนที่ปูนซีเมนตปอรตแลนด<br />
ประเภทที่ 1 ในอัตรารอยละ 20 โดยน้ําหนักของวัสดุ<br />
ประสาน เพื่อหลอตัวอยางมอรตาร โดยมีคาการไหลแผ<br />
อยูในชวงรอยละ ±5 ของมอรตารควบคุม และทดสอบ<br />
กําลังอัดที่อายุ 3 7 14 28 60 และ 90 วัน ตามลําดับ<br />
การศึกษาพบวาการแทนที่ปูนซีเมนตดวยทราย<br />
บดละเอียดที่มีน้ําหนักที่คางบนตะแกรงเบอร 325 เทากับ<br />
รอยละ 5±2 และ 34±2 ทําใหมีคาดัชนีกําลังที่เกิดจาก<br />
การอัดตัวของอนุภาคเพิ่มขึ้นรอยละ 2 และลดลงรอยละ<br />
3 ตามลําดับ สวนคาดัชนีกําลังที่เกิดจากปฏิกิริยาไฮเดร<br />
ชันของมอรตารที่แทนที่ดวยทรายบดละเอียดรอยละ 20<br />
ซึ่งมีน้ําหนักคางบนตะแกรงเบอร 325 เทากับปูนซีเมนต<br />
ปอรตแลนด พบวามีคาเทากับรอยละ 80 สําหรับคาดัชนี<br />
กําลังที่เกิดจากปฏิกิริยาปอซโซลานของเถาแกลบ-เปลือก<br />
ไมและเถาปาลมน้ํามันที่มีอนุภาคคางบนตะแกรงเบอร<br />
325 เทากับรอยละ 5±2 มีคาเทากับรอยละ 11 และ 5 ที่<br />
อายุ 3 วัน รอยละ 20 และ 18 ที่อายุ 28 วัน และเพิ่มขึ้น<br />
เปนรอยละ 25 และ 23 ที่อายุ 90 วัน ตามลําดับ<br />
NJ-007 เทคนิคการหาตําแหนงของจุดดัชนีโดย<br />
อัตโนมัติบนภาพถายทางอากาศเชิงเลข<br />
ธีระ ลาภิศชยางกูร<br />
วารสารวิทยาศาสตรและเทคโนโลยีมหาวิทยาลัย<br />
มหาสารคาม, ปที่ 24, ฉบับที่ 2, เมษายน-มิถุนายน<br />
2548, หนา 86-94<br />
การหาตําแหนงศูนยกลางของจุดดัชนีในอดีตจะ<br />
กระทําดวยมือโดยกําหนดบนภาพเองเลย แตในปจจุบัน<br />
กระบวนการหาคาพิกัดของจุดดัชนีสามารถกระทําไดโดย<br />
อัตโนมัติดวยคอมพิวเตอร ซึ่งทําใหไดผลที่มีความ<br />
ละเอียดและถูกตองกวาการกําหนดดวยมือ ในบทความวา<br />
ดวยการหาตําแหนงศูนยกลางของจุดดัชนีโดยอัตโนมัตินี้<br />
นําเสนอวิธีการ 4 วิธี คือ วิธีการวัดศูนยกลางของจุดศูนย<br />
ถวง (Center of Gravity Method) วิธีลีสทสแควร<br />
55<br />
National Journal