บ้านเรือนถิ่นไทยในช่วงเจ็ดทศวรรษ 2489-2559

การปล่อยสินเชื่อน้อยลงมากถึงแม้อัตราดอกเบี้ยจะ
ต่ำลง และตัวเลขการลงทุนก็ชะลอตัวต่อไปอีกนาน
ระบบการธนาคารทั้งหมดถูกปฏิรูปใหม่ การที่รัฐบาล
ลุกขึ้นมาซื้อธนาคารที่กำลังจะล้มหรือล้มไปแล้วนั้น
ทำให้สัดส่วนการลงทุนของภาครัฐในธุรกิจธนาคารเพิ่ม
ขึ้นมาก ธนาคารที่ไม่ถูกซื้อมีการเปลี่ยนรูปแบบการ
ดำเนินธุรกิจ ก่อนวิกฤติการณ์กฎหมายกำหนดให้
ธนาคารพาณิชย์ที่มีสาขามากมายมีผู้ถือหุ้นเป็นคนไทย
เท่านั้น แต่ความต้องการระดมเงินทุนทำให้ธนาคาร
แห่งประเทศไทยจำเป็นต้องอนุญาตให้ธนาคารทุกแห่ง
มีผู้ถือหุ้นต่างชาติได้ เมื่อเริ่มมีนายทุนต่างชาติ บวกกับ
กฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นของธนาคารแห่งประเทศไทย
ความสนิทสนมเป็นกันเองระหว่างธนาคารกับลูกค้า
อย่างที่เคยปฏิบัติกันมาลดน้อยลงมาก เรียกได้ว่าระบบ
การทำงานพัฒนาขึ้น (ทั้งสำหรับธนาคารและลูกค้า)
แต่บทบาทการเป็นผู้จัดสรรเงินทุนและประสานงาน
การลงทุนที่ธนาคารเคยทำกลับหายไป โดยธนาคาร
เปลี่ยนบทบาทมาเป็นตลาดเงินทุนที่มีประสิทธิภาพ
มากขึ้นแทน
การบริหารเศรษฐกิจระดับมหภาคของประเทศมี
to use the so-called market-driven approach,which was to
leave these assets where they were, and let the banks
nurse these assets back to health, hoping that this would
yield better results. The alternative option was to carve out
all the NPAs from all the financial institutions and warehouse
them in a state-owned asset management company. The
buying price would be the value of the collateral against
the loans, which is of course substantially less than the
face value of the loan. The banks selling these dud assets
would then suddenly be capital short, which would be filled
by capital injection from the government. Although there
is a risk that warehousing the NPAs in a state-owned
asset-management company would make them depreciate
far more rapidly, there is, on the other hand, the possibility
that the remaining “good banks”would function effectively
right away, and thus assist in a faster recovery. 2 In the
end, the Chuan government ruling at the time decided
against this approach in favor of the market-oriented
approach (Veerathai, 2003). By being cautious, the
government slowed down the recovery of the financial
การเปลี่ยนโฉมหน้าครั้งใหญ่ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญรุ่นเก่าที่
เคยทำหน้าที่ประสานแผนการเงินการคลัง อันทำให้
นโยบายเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเป็นไปอย่าง
สอดคล้องในระดับหนึ่งนั้นไม่มีอีกต่อไป พรรคการเมือง
มีบทบาทมากขึ้นในการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจ
การบริหารเศรษฐกิจทั้งหมดในช่วงวิกฤติการณ์นั้นอยู่ใน
มือของนายธาริน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ผู้ดำรง
ตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง แต่ปรากฏว่าเขาหัวเก่ายิ่งกว่า
กลุ่มผู้เชี่ยวชาญเดิมเสียอีก เพิ่งจะในยุคทักษิณนี่เองที่
เราเริ่มเห็นแนวทางการบริหารเศรษฐกิจเชิงรุกแบบใหม่
จากนักการเมือง ข้อดีหนึ่งของแผนการเงินการคลังแบบ
อนุรักษ์นิยมเมื่อเกิดวิกฤติการณ์คืออัตราเงินเฟ้อที่ต่ำ
หลังเหตุการณ์ค่าเงินบาทอ่อนตัวหลัง พ.ศ. 2540 ทำให้
อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่แท้จริงตกลง 20 เปอร์เซ็นต์
เมื่อเทียบกับก่อนหน้า พ.ศ. 2540 และนั่นทำให้ภาคการ
ส่งออกขยายตัวมากขึ้นจนสูงถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของ
GDP ถึงแม้อัตราการสร้างมูลค่าเพิ่มในประเทศจะอยู่ที่
30-35 เปอร์เซ็นต์ของ GDP แต่ก็ถือว่าเพิ่มขึ้นมากเมื่อ
เทียบกับก่อนวิกฤติการณ์ (Chaipat และอื่นๆ 2552)
ตั้งแต่นั้นเศรษฐกิจของไทยมีความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจ
system and lengthened the economic depression. It entered
the 2001 general elections with the economy below the
pre-depression peak and was duly defeated.
Because of the cautious policy on bank restructuring,
and the consequent length and depth of the depression,
the cost of the crisis was probably larger than it could have
been. By 2002, when the losses from the support of the
banks during the crisis were consolidated into the public
debt, the debt-to-GDP ratio had jumped five-fold from the
level before the crisis (Figure 1).
Thai businesses took a severe punishment during the
deleveraging process, and harsh lessons were learned.
Afterward, they have shied away from over borrowing and
relied more on their own cash flows, another reason why
there has been little use of bank credit since then despite
the low interest rate, and also for the low level of investment
that prevailed for a very long time. This slow pace of
investment relative to saving enabled Thailand to
accumulate foreign exchange reserves continuously (despite
the flexible exchange rate system), making Thailand a small
104