บ้านเรือนถิ่นไทยในช่วงเจ็ดทศวรรษ 2489-2559

โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับอำนาจเหนือรัฐไทรบุรี (เกาะ
หมากและสมารังไพร) ตลอดจนการทำสัญญาการค้า
กับไทย พร้อมกับขอทำแผนที่และศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ
ทรัพยากรธรรมชาติและประชากรของไทย แต่การ
เจรจาล้มเหลวทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงที่
จะดำเนินการตามที่ทางฝ่ายสหราชอาณาจักรต้องการได้
แต่ถึงแม้ว่าการเจรจาเป็นทางการจะไม่ประสบผลสำเร็จ
ครอว์ฟอร์ด (นายการะฝัด) ก็ได้ทำการสำรวจระดับน้ำ
ตามปากอ่าวสยาม (ปัจจุบันเรียกว่าอ่าวไทย) เพื่อทำ
แผนที่ได้สำเร็จ ส่อถึงเจตนารมณ์ของการรุกรานซึ่ง
ทำให้ไทยไม่พอใจมาก
Dr. John Crawfurd นั้นถูกส่งเข้ามากรุงเทพฯ
ในฐานะทูต แต่แท้จริงแล้วเขาเป็นแพทย์ และมีความ
สนใจสิ่งต่างๆ อย่างหลากหลาย เช่น มีความสนใจ
เรื่องภาษาแถบตะวันออก เป็นต้น เขาเป็นคนช่าง
สังเกตและได้ทำบันทึกเอาไว้ว่าจำนวนประชากรใน
กรุงเทพฯ น่าจะมีประมาณ 50,000 คน เขายังตั้ง
ข้อสังเกตด้วยว่าพุทธศาสนาและอุดมการณ์ธรรมิกราชา
มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในสังคมไทยมาก เขาบันทึก
ว่า “องค์กรทางศาสนามีอิทธิพลมากต่อระบบบริหาร
Siam’s first official contact with the West during the
period of Rama II took place in 1818. The Portuguese
Governor in Macao delegated Carlos Manuel Silviera as
envoy to bear a letter of amity from the King of Portugal
and to establish friendly relations between the two nations.
The intent was well reciprocated by Siam and request
was made for Portugal to handle the procurement of 400
muskets on its behalf. Two years later in 1820, Siam
agreed to Portugal setting up a consulate in the kingdom
with Carlos Manuel Silviera as the Consul General. It
was the first foreign consulate to be established in the
Rattanakosin era, and Silviera was later given the title of
Luang Abhaipanich (rank and title conferred upon officials
of Siamese government) by Rama II.
An important initiative considered to be a significant
international move by Siam also took place in 1818.
Phraya Suriyawongse Montri (Dis Bunnag who was
subsequently promoted to the title of Somdej Chaophraya
Borom Maha Prayurawongse by Rama IV) sent a letter,
in the Portuguese language, to President James Monroe
ราชการแผ่นดิน ข้าพเจ้าคิดว่าสยามนั ้นเป็นประเทศ
เดียวในโลกซึ่งศาสนามีส่วนสำคัญมากในการกำหนดวิถี
ทางการดำรงชีวิตของราษฎร” อิทธิพลทางด้านสังคม
และวัฒนธรรมยังสะท้อนให้เห็นในรูปของสิ่งแวดล้อม
ทางกายภาพ Crawfurd บันทึกว่า “วัดวาอารามเหล่านี้
เป็นสิ่งที่มีความวิจิตรงดงามที่สุดในประเทศ” อย่างไร
ก็ดีในสมัยรัชกาลที่ 1 และรัชกาลที่ 2 นั ้น ผู้ที่สร้าง
วัดสำคัญในกรุงเทพฯ ก็คือ พระมหากษัตริย์และสมาชิก
คนสำคัญในราชตระกูลทั้งสิ้น
สมัยรัชกาลที่ 3
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงครอง
ราชย์ระหว่าง พ.ศ. 2367 - 2394 พระราชภารกิจสำคัญ
ประการหนึ่งก็คือ การปรับปรุงวิธีการเก็บภาษีอากรเพื่อ
ให้รายได้ของรัฐบาลมีมากขึ้นและมีความแน่นอน โดย
การนำระบบเจ้าภาษีนายอากร (Tax Farming System)
มาใช้ กล่าวคือ ให้เอกชนเป็นผู้ผูกขาดการจัดเก็บภาษี
โดยเอกชนเป็นผู้แข่งขันกันในการประมูลราคา เอกชน
ผู้ให้ราคาสูงสุดจะเป็นผู้ผูกขาดการเก็บภาษี ซึ่งพระบาท
สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงอธิบายว่า “... ได้
of the United States expressing that Siam was seeking to
purchase a certain number of muskets. This was the first
letter of correspondence to establish relationship between
the two countries and consequently, many ships sailed
with cargos from the United States to Bangkok between
1820 and 1829.
In 1821, the British Consul General in India sent Dr.
John Crawfurd to ascertain Rama II’s stance on the political
situation concerning the northern provinces of the Malay
Peninsula, especially with regards to the control over Kedah
(Penang and Seberang Perai). Other agendas included
trade agreements with Siam, cartographic undertaking,
obtaining demographic information, and exploring natural
resources. The mission turned out unsuccessful as Siam
rejected all of Britain’s propositions. Despite the failed
diplomatic attempt to negotiate, Crawfurd nevertheless
managed to collect data on water levels and navigation
routes in the Gulf of Siam. This greatly offended Siam since
the implication was obvious that it was an intentional threat
by the British to undermine the kingdom’s sovereignty.
147