บ้านเรือนถิ่นไทยในช่วงเจ็ดทศวรรษ 2489-2559
You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
แยกประเภทไม้ และทำการประกอบบ้านไม้ขึ้นมาใหม่ โดย<br />
เริ่มจากการแยกประเภทไม้จากบ้านเดิม ได้แก่ ไม้โครงสร้าง<br />
หลังคา เสา โครงเคร่าผนัง ไม้ฝา ตงและคานพื้น ไม้แผ่นพื้น<br />
ชุดบันได ประตูและหน้าต่าง<br />
การออกแบบบ้านจากไม้เก่า สิ่งแรกๆ ที่มองเห็นว่าจะ<br />
นำไปใช้ได้คือ ประตูและหน้าต่าง โดยที่ช่างสามารถถอดบาน<br />
ประตูพร้อมวงกบ และชุดบานหน้าต่างพร้อมวงกบ มาวางเรียง<br />
ให้สามารถจินตนาการได้ว่าจะนำไปใช้ในส่วนไหนของบ้านที่<br />
สร้างใหม่ การผสมผสานโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กกับ<br />
โครงสร้างไม้ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องจัดสรรพื้นที่ให้ดี โดยบ้าน<br />
หลังนี้เลือกที่จะใช้ส่วนที่เป็นห้องน้ำทั้งชั้นล่างและชั้นบนเป็น<br />
โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก รวมถึงส่วนครัวเพื่อเป็นวัสดุกัน<br />
ไฟให้กับบ้าน สำหรับส่วนพื้นห้องนั่งเล่น, ระเบียงชั้นล่าง, ห้อง<br />
นอน, ห้องพระบนชั้นสอง เลือกที่จะใช้โครงสร้างพื้นไม้เพื่อที่จะ<br />
ได้แสดงความสวยงามของโครงสร้างไม้ ซึ่งพื้นที่ของโครงสร้าง<br />
ไม้ได้จากการคำนวณปริมาณของพื้นไม้ในบ้านใหม่ให้ใกล้เคียง<br />
กับบ้านเดิม จะได้ไม้โครงสร้างที่มีความสมบูรณ์มาก เนื่องจาก<br />
เป็นส่วนที่ไม่โดนสภาพอากาศทำลายเสาไม้ของบ้านเดิมมี<br />
ความพิเศษคือเป็นไม้ยาวท่อนเดียวตั้งแต่พื้นถึงหลังคา แต่<br />
โครงสร้างของบ้านใหม่ในส่วนที่เป็นบ้านสองชั้นนั้น ชั้นล่าง<br />
จะเป็นเสาคอนกรีตเสริมเหล็ก แล้วจึงค่อยต่อเสาไม้ในชั้นสอง<br />
จึงจำเป็นที่จะต้องตัดเสาออกไปบ้าง แต่ก็ได้เลือกใช้เสาต้นที่<br />
สมบูรณ์มาไว้ในส่วนที่เป็นระเบียง สำหรับในส่วนบ้านชั้นเดียว<br />
นั้นก็ใช้เสาไม้วางบนพื้นคอนกรีตได้เลย<br />
โครงเคร่าไม้ขนาด 1” x 3” หรือที่เรียกว่าไม้หน้าสามนั้น<br />
เป็นเหมือนไม้เอนกประสงค์ที่ใช้เป็นส่วนประกอบของโครง<br />
ต่างๆของบ้าน โครงเคร่าของบ้านเดิมก็นำมาตัดต่อใช้เป็น<br />
โครงเคร่าของบ้านใหม่ได้อย่างง่ายดายแทบไม่เหลือเศษ<br />
ส่วนไม้ฝาของบ้านเป็นส่วนที่รื้อออกมาแล้วเสียหายมากที่สุด<br />
เนื่องจากเป็นไม้แผ่นบาง โดนความชื้นและแดดตลอดอายุการ<br />
ใช้งาน รวมถึงมีปลวกเป็นบางจุด แผ่นที่รื้อออกมาสมบูรณ์ก็จะ<br />
นำไปตีเป็นไม้ฝาเหมือนเดิม ส่วนบางแผ่นที่รื้อออกมาเป็นแผ่น<br />
ที่เล็กลงก็ยังนำไปทำเป็นฝ้าชายคาได้และเนื่องจากพื้นที่ผนัง<br />
ของบ้านใหม่มีพื้นที่มากกว่าบ้านเดิม ทำให้ต้องซื้อไม้หน้าสาม<br />
เป็นโครงเคร่า และไม้ฝาเพิ่มบางส่วน ซึ่งเป็นไม้สักจากป่าปลูก<br />
The old 1”x3” frame woods were calculated and<br />
used as framing for the new house with almost no<br />
waste. Wall panels were the most damaged due to<br />
moisture, sunlight, and termites. The ones in good<br />
condition were reused as wall panels. Those that had<br />
to be trimmed smaller were used as soffits.<br />
Why the name Jitsaman (Unified souls)?<br />
It’s from the names of two owners, granny Yenjit<br />
and grandpa Saman. Although they’re no longer<br />
around, the children still feel that this house is the<br />
evidence of their hard work. The eldest sister said<br />
she wants this house to be a haven for everyone in<br />
the family. That’s why they call this house “Jitsaman”.<br />
ที่มาของชื่อ จิตสมาน<br />
เป็นการรวมกันของชื่อเจ้าของบ้าน คือ คุณยายเย็นจิต<br />
และ คุณตาสมาน พันธุ์แก้ว ถึงแม้ว่าทั้งคุณยายและคุณตาจะ<br />
ไม่ได้อยู่กับพวกเราแล้ว ลูกๆ และหลานๆ ต่างก็เห็นว่าบ้านหลัง<br />
นี้เป็นเสมือน สิ่งที่บอกถึงความพากเพียรของท่านทั้งสองคน<br />
พี่สาวคนโตอยากให้บ้านหลังนี้เป็นที่พักพิง แบ่งปันความอบอุ่น<br />
ของครอบครัว สมาชิกครอบครัวจึงร่วมกันตั้งชื่อบ้านหลังใหม่<br />
นี้ว่า “จิตสมาน”<br />
476